ความเชื่อของคริสตชนคือคำตอบของความกระหายความรัก (Christian faith is answer to thirst for love)
พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงประกอบพิธีมหาบูชาขอบพระคุณ ในตอนบ่ายวันอาทิตย์ที่ 3 กันยายน 2023 ณ สนามกีฬาสเตปป์อารีนา (Ulaanbaatar’s Steppe Arena) กรุงอูลานบาตอร์ เมืองหลวงของประเทศมองโกเลีย
พระองค์ทรงนำการไตร่ตรองถึง “ความกระหาย” ในตัวมนุษย์ทุกคน และ “ความรักที่ดับความกระหายนั้น” โดยได้รับแรงบันดาลใจจากเพลงสดุดีที่ตอบสนองในวันนั้น “ข้าแต่พระเจ้า… จิตวิญญาณของข้าพระองค์กระหายหาพระองค์ ร่างกายของข้าพระองค์อ่อนเปลี้ยเพื่อพระองค์ เหมือนอยู่ในดินแดนที่แห้งแล้งและอ่อนล้าซึ่งไม่มีน้ำ”
มองโกเลียเป็นประเทศที่ “ยิ่งใหญ่” “อุดมไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม” ทว่า “โดดเด่นด้วยความแห้งแล้งของทุ่งหญ้าสเตปป์ (the steppes) และทะเลทราย” ซึ่งเป็นคำเปรียบเทียบที่เหมาะสมสำหรับความกระหายความสุข และความรักที่พบในหัวใจของมนุษย์ทุกคนและสิ่งมีชีวิต
มีเพียงพระคริสตเจ้าเท่านั้นที่สามารถดับความกระหายของเราได้ (Only Christ can quench our thirst)
ข้อความนี้เชิญชวนเราก่อน “ให้รับรู้ถึงความกระหายในตัวเรา” ถ้อยคำของผู้แต่งบทเพลงสดุดี “มีความสอดคล้องกับดินแดนมองโกเลีย พร้อมด้วยวัฒนธรรมเร่ร่อนแบบดั้งเดิม” “พวกเราทุกคนเป็น ‘ชนเผ่าเร่ร่อนของพระเจ้า’ ผู้แสวงบุญในการค้นหาความสุข นักเดินทางที่แสวงหาความรัก”
“พี่น้องที่รัก ความเชื่อของคริสตชนคือคำตอบของความกระหายนี้… เพราะในความกระหายนี้มีความลึกลับอันยิ่งใหญ่ของความเป็นมนุษย์ของเราซ่อนอยู่ มันเปิดหัวใจของเราต่อพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์ พระเจ้าแห่งความรัก ผู้ทรงเสด็จมา เพื่อมาพบพวกเราและทำให้เราเป็นลูกพี่ลูกน้องของเขาด้วยกัน”
“นี่คือหัวใจของความเชื่อของคริสตชน: พระเจ้าผู้ทรงเป็นความรักได้เข้ามาใกล้คุณในพระเยซูเจ้าพระบุตรของพระองค์ และต้องการแบ่งปันในชีวิตของคุณ งานของคุณ ความฝันของคุณ และความกระหายความสุขของคุณ”
หากบางครั้งในชีวิตเรา “ประสบกับทะเลทรายแห่งความเหงา ความเหนื่อยล้า และความว่างเปล่า” พระสันตะปาปาฟรังซิสตรัสโดยอ้างถึงนักบุญออกัสตินว่า พระเจ้าจะทรงทำให้เราสดชื่นด้วย “น้ำค้างแห่งพระวจนะของพระองค์… พระองค์ได้ทรงเปิดทางหลวงในทะเลทรายให้เรา องค์พระเยซูคริสต์เจ้าของเรา” พระเจ้าทรงเสนอการปลอบใจแก่เรา ผ่านทางผู้เทศนาพระวาจา และประทานน้ำในทะเลทราย "โดยประทานพระจิตเจ้าแก่ผู้เทศนาเหล่านั้น"
หัวใจแห่งความเชื่อของเรา (The heart of our faith)
ถ้อยคำนี้ พระสันตะปาปาฟรังซิสตรัสว่า “นำเรากลับมาสู่หัวใจแห่งความเชื่อของเราเสมอ: ยอมให้ตัวเราเองได้รับความรักจากพระเจ้า และในทางกลับกันทำให้ชีวิตของเราเป็นเครื่องบูชาด้วยความรัก เพราะความรักเพียงอย่างเดียวสามารถดับความกระหายของเราได้อย่างแท้จริง”
เมื่อหันไปดูพระวรสาร ซึ่งพูดถึงการที่เปโตรไม่สามารถยอมรับพระมหาทรมาน และไม้กางเขนของพระเยซูได้ ความเป็นโลกแบบอย่างของเปโตร “ไม่ได้นำไปสู่ที่ใดเลย มันทำให้เรากระหายมากขึ้นกว่าเดิม” มีเพียงการปฏิเสธตนเอง และแบกกางเขนของเรา เหมือนที่พระเยซูทรงทำเท่านั้น ที่เราจะสามารถสนองความกระหายในชีวิตของเราได้
"นี่คือความจริงที่พระเยซูเจ้าทรงต้องการให้เราค้นพบ ความจริงที่พระองค์ต้องการจะเปิดเผยแก่พวกคุณทุกคน และต่อดินแดนมองโกเลียแห่งนี้ คุณไม่จำเป็นต้องมีชื่อเสียง ร่ำรวย หรือมีอำนาจเพื่อที่จะมีความสุข ความรักเท่านั้นที่สนองความกระหายของหัวใจ ความรักเท่านั้นที่รักษาบาดแผลของเรา ความรักเท่านั้นที่ทำให้เรามีความสุขอย่างแท้จริง”
พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงเรียกร้องให้เราทุกคน คำนึงถึงพระวาจาของพระเจ้าที่ตรัสกับเปโตร มาเป็นอัครสาวกของพระเยซู ให้เดินตามรอยพระบาทของพระองค์ และหยุดคิดอย่างที่โลกคิด
“ถ้าเราทำเช่นนี้ ด้วยพระหรรษทานของพระคริสตเจ้าและพระจิตเจ้า เราจะสามารถเดินทางไปตามเส้นทางแห่งความรัก… เมื่อเราเสียชีวิตเพื่อเห็นแก่พระวรสาร พระเจ้าจะประทานความอุดมบริบูรณ์แห่งความรัก และความชื่นชมยินดีตลอดนิรันดรกลับมาหาเราอย่างล้นเหลือ”