พิธีตื่นเฝ้าภาวนาเพื่อตอกย้ำถึงศูนย์กลางของการอธิษฐานภาวนาในกระบวนการสมัชชา (Prayer Vigil to highlight centrality of prayer in Synod process)
ผู้นำการสมัชชาบิชอปสากลครั้งที่ 16 กล่าวว่า การตื่นเฝ้าอธิษฐานภาวนาทั่วโลก ที่จะจัดให้มีขึ้นในวันที่ 30 กันยายน 2023 ก่อนที่จะมีการประชุมสมัชชาบิชอปสากลครั้งที่ 16 ในเดือนตุลาคม 2023 มีวัตถุประสงค์ 2 ประการ คือ
1) การเป็นศูนย์กลางของการอธิษฐาน
2) ความสำคัญของการเสวนากับผู้อื่น เพื่อก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน บนเส้นทางแห่งความเป็นพี่น้องกันในพระคริสตเจ้า และความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
ความสำคัญของการอธิษฐานและคริสตศาสนจักรสัมพันธ์ (The importance of prayer and ecumenism)
ซิสเตอร์ นาธาลี เบคควาร์ต ปลัดเลขาธิการสมัชชาบิชอปสากล (Sr. Nathalie Becquart, Undersecretary of the General Secretariat of the Synod) กล่าวในงานแถลงข่าวที่สำนักงานข่าวสันตะสำนักว่า การตื่นเฝ้าอธิษฐานภาวนาจะเน้นย้ำถึง “ประเด็นสำคัญของความมุ่งมั่นต่อความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และสันติภาพในโลกนี้ ที่กำลังถูกทำให้แยกออกจากกันด้วยเหตุผลหลายประการ และในขณะเดียวกัน ก็มอบความไว้วางใจในการทำสมัชชาต่อพระจิตเจ้า
ซิสเตอร์นาธาลีเปิดเผยว่า พระสันตะปาปาฟรังซิสจะเป็นประธานในพิธีพร้อมกับตัวแทน 12 คนจากคริสตชนคาทอลิกจารีตต่าง ๆ (Christian traditions), พาร์ทิอาร์คบาร์โธโลมิวที่ 1 แห่งกรุงคอนสแตนติโนเปิล (the Ecumenical Patriarch of Constantinople, Bartholomew I), อาร์คบิชอปจัสติน เวลบี แห่งแคนเทอร์เบอรี (Justin Welby, the Archbishop of Canterbury) รวมถึงผู้แทนคริสตจักต่าง ๆ ที่ไม่ใช่คาทอลิกอีกด้วย
การเฉลิมฉลองความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันที่บรรลุผลสำเร็จแล้ว (Celebrating unity already achieved)
คนหนุ่มสาวยังจะมีบทบาทสำคัญในพิธีตื่นเฝ้าในครั้งนี้ด้วย ซึ่งจะเกิดขึ้นในบริบทของการรวมตัว “ร่วมกัน” ในกรุงโรม ซึ่งเป็นความคิดริเริ่มที่ได้รับแรงบันดาลใจจากความฝันของบราเดอร์อโลอีส (Brother Alois) อดีตผู้นำหมู่บ้านเทเซ่ (Taize) ในประเทศฝรั่งเศส ระหว่างการประชุมสมัชชา “เพื่อเฉลิมฉลองความเป็นหนี่งเดียวกันในพระคริสตเจ้าที่มีอยู่แล้ว และเพื่อทำสิ่งนี้ปรากฏให้เห็นเด่นชัดขึ้น”
ในเหตุการณ์นี้จะได้เห็นคนหนุ่มสาวประมาณ 3,000 คนจากกว่า 40 ประเทศทั่วดลก มารวมตัวกันที่กรุงโรมเพื่อแบ่งปันการทำงานร่วมกัน (workshop) แสดงประจักษ์พยาน ตลอดจนการสรรเสริญและนมัสการพระเจ้าในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์
ในงานแถลงข่าวเมื่อวันศุกร์ที่ 8 กันยายน 2023 บราเดอร์แมทธิวแห่งหมู่บ้านเทเซ่อธิบายว่า การชุมนุมร่วมกันในครั้งนี้ มีจุดมุ่งหมายเพื่อแสดงความเป็นจริงของสมัชชา เรื่องการก้าวเดินไปด้วยกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การมีส่วนร่วมของคนหนุ่มสาว
บรรดาเยาวชนเหล่านั้น จะเริ่มเดินทางจากพระมหาวิหารนักบุญยอห์นแห่งลาเตรันในกรุงโรม ไปยังจัตุรัสนักบุญเปโตรเพื่ออธิษฐานภาวนา ตลอดจนการอธิษฐานภาวนาอื่น ๆ อีกมากมายที่จัดขึ้นทั่วโลกในวันเดียวกันนั้น
บราเดอร์มัทธิวกล่าวว่า ได้วางแผนเตรียมงานหลายอย่างสำหรับกิจกรรมที่กำลังจะเกิดขึ้น ทั้งการประชุมร่วมกัน และการอธิษฐานภาวนาเพื่อให้ทุกอย่างประสบความสำเร็จ และแสดงออกมาให้เห็นถึงความเป็นหนึ่งเดียวกันที่มีอยู่แล้วให้ชัดเจนเป็นรูปธรรม
การสื่อสารของสมัชชา (Communicating the Synod)
สุดท้ายนี้ ดร.เปาโล รัฟฟินี (Dr. Paolo Ruffini) ซึ่งพระสันตะปาปาฟรังซิสทรงเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการด้านสารสนเทศของการทำสมัชชา ได้แบ่งปันรายละเอียดของการประชุมสมัชชาใหญ่ ที่กำลังจะมีขึ้นกับนักข่าวที่มาร่วมงานแถลงข่าว
ขณะที่รายละเอียดของแผนงานสำหรับสมัชชาใหญ่ยังไม่สรุปแน่ชัด ดร. รัฟฟินีก็สามารถบรรยายโครงร่างหลัก ของการประชุมที่จัดขึ้นนานร่วมเดือนได้ โดยกล่าวว่า งานของสมัชชาบิชอปสากลจะแบ่งออกเป็น “หลักสูตรต่าง ๆ” ตามหัวข้อหลักของการก้าวเดินไปด้วยกันใน ความเป็นหนึ่งเดียวกัน การมีส่วนร่วม และพันธกิจ โดยหัวข้อสุดท้ายมุ่งเน้นไปที่การเตรียมการสังเคราะห์งานที่ทำสำเร็จ
เมื่อกล่าวถึงหัวข้อการสื่อสาร ดร. รัฟฟินีกล่าวว่า “วิธีที่เราจะสื่อสารต่อสมัชชาบิชอปสากลมีความสำคัญมาก สำหรับกระบวนการแยกแยะและสำหรับพระศาสนจักรทั้งหมด”
ท่านกล่าวว่า “การรักษาความลับ ความเป็นส่วนตัว” และแม้กระทั่ง “ความศักดิ์สิทธิ์อันเกิดจาก
การบันดาลของพระจิตเจ้าที่ต้องการให้ช่วงเวลานี้ เป็นช่วงเวลาแห่งการรับฟังซึ่งกันและกัน การแยกแยะ และการอธิษฐานภาวนา อันอยู่บนพื้นฐานของความเป็นหนึ่งเดียวกัน
โดยแนวทางที่คณะกรรมาธิการนำมาใช้ “จะช่วยให้สมาชิกสมัชชาทุกคนได้รู้จัก และรับฟังซึ่งกันและกัน” โดยเป็นส่วนหนึ่งของ “ร่างกายเดียวกัน”
นอกจากนี้ ท่านยังตั้งข้อสังเกตอีกว่า สมัชชาจะจัดทำ “เอกสารสังเคราะห์” เพื่อสรุปการทำงานออกมา แต่เอกสารนี้จะยังไม่ใช่เอกสารขั้นสุดท้าย เนื่องจากสมัชชาจะดำเนินการต่อไป ผ่านการประชุมสมัชชาครั้งที่สองซึ่งจะจัดขึ้นในเดือนตุลาคม 2024
ดร. รัฟฟินีสรุปการนำเสนอของโดยกล่าวว่า “ในโลกที่ถูกแบ่งแยกเช่นนี้ เรากำลังหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การสื่อสารจะบอกเล่าเรื่องราวของความพยายาม ในการเป็นหนึ่งเดียวกันของเราได้อย่างไร” เขาสนับสนุนให้นักข่าว “จงไว้วางใจในเรา เราจะทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อช่วยเหลือพวกคุณ”