Laudate Deum จะเป็นชื่อของสมณลิขิตเตือนใจของพระสันตะปาปาฟรังซิสเกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศ (เพื่อเป็นชื่อคำเตือนของสมเด็จพระสันตะปาปาเรื่องสภาพภูมิอากาศ (Laudate Deum,' to be title of Pope's Apostolic Exhortation on climate) ซึ่งจะเผยแพร่ในวันที่ 4 ตุลาคม 2023 นี้
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 กันยายน 2026 พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงพบปะกับผู้เข้าร่วมในการประชุมของอธิการบดีมหาวิทยาลัยลาตินอเมริกาและแคริเบียน (the meeting of the Rectors of public and private universities of Latin America and the Caribbean) และคณะกรรมาธิการสันตะสำนักละตินอเมริกา หัวข้อ “การจัดระเบียบของความหวัง” (Organizing Hope) จำนวนประมาณ 200 คน ณ นครวาติกัน ทรงเทศน์สอนให้จริงจังต่อวัฒนธรรมทิ้งขว้าง (throwaway culture)
ในโอกาสนี้ พระสันตะปาปาฟรังวิสทรงสะท้อนถึงประเด็นต่าง ๆ ที่นักการศึกษาหยิบยกขึ้นมา รวมถึง
1) การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
2) การอพยพย้ายถิ่นฐาน และ
3) วัฒนธรรมของขยะ
"วัฒนธรรมที่ทิ้งขว้าง หรือวัฒนธรรมแห่งการละทิ้ง" คือ "วัฒนธรรมแห่งการใช้ทรัพยากรธรรมชาติในทางที่ผิด ซึ่งไม่ได้ช่วยให้ธรรมชาติเติบโตสมบูรณ์อย่างเต็มที่ หรือไม่ได้ปล่อยให้มันดำรงอยู่ตามธรรมชาติดังที่ควรจะเป็น วัฒนธรรมแห่งการละทิ้ง เป็นอันตรายต่อพวกเราทุกคน"
#การใช้ธรรมชาติอย่างเหมาะสม (The proper use of nature)
“มีวัฒนธรรมแบบทิ้งขว้างซึ่งเกิดขึ้นอยู่เสมอ ขาดการศึกษาเพื่อใช้สิ่งที่เหลืออยู่ สร้างใหม่ และแทนที่สิ่งเหล่านั้นตามลำดับทั่วไป การใช้สิ่งของต่าง ๆ และวัฒนธรรมแบบทิ้งขว้างนี้ ก็ส่งผลต่อธรรมชาติด้วย” และทรงยืนยันถึง ความเร่งด่วนในการกลับคืนสู่การใช้ธรรมชาติอย่างเหมาะสมว่า
“ทุกวันนี้ มนุษยชาติเบื่อหน่ายกับการใช้ธรรมชาติในทางที่ผิดนี้แล้ว และต้องกลับไปสู่วิถีแห่งการใช้ธรรมชาติที่ดี และวิธีที่เราใช้ธรรมชาติ คำที่อาจฟังดูแปลก ๆ ถ้าข้าพเจ้าจะพูดว่า: การเสวนากับธรรมชาติ"
ด้วยเหตุนี้ พระสันตะปาปาทรงเรียกร้องให้มหาวิทยาลัยต่าง ๆ สร้างเครือข่ายการรับรู้ นั่นก็คือ “การทวงคืนและจัดระเบียบความหวัง”
“ข้าพเจ้าชอบวลีนี้ และใคร ๆ ก็อดไม่ได้ที่จะพิจารณามันในบริบทของระบบนิเวศเชิงบูรณาการ ในมิตินี้ ตามที่เยาวชนในปัจจุบันมีสิทธิที่จะช่วยกันทำให้จักรวาลเกิดความสมดุล และพวกเขามีสิทธิ์ที่จะมีความหวัง และเราต้องช่วยให้พวกเขาจัดระเบียบความหวังนี้ เพื่อตัดสินใจอย่างจริงจังตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป"
#ธรรมชาติมีไว้สำหรับทุกคน (Nature is for all)
"วัฒนธรรมการปฏิรูป" เป็นผล "ของวิกฤตเศรษฐกิจ ซึ่งไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาของผู้ที่ขัดสนมากที่สุดเสมอไป ข้าพเจ้าจะบอกว่าบางครั้ง หรือหลายครั้งก็ไม่ได้อยู่ที่การรับใช้การพัฒนาของทุก ๆ คน และสร้างคนให้มีความต้องการมากยิ่งขึ้น เป็นวัฒนธรรมของการยึดทรัพย์ เราทุกคนมีสิทธิในการใช้ธรรมชาติ" ที่จะครอบงำธรรมชาติเพื่อให้มันเติบโต และใช้มันเพื่อประโยชน์ส่วนรวม
มหาวิทยาลัยบางแห่งสอนแต่ทฤษฎีที่ไม่สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง แต่ต้องให้บรรดาเยาวชนได้ตระหนักถึงความเป็นจริงที่กำลังเกิดขึ้นกับโลกของเรา นั่นก็คือ คนยากจนที่ถูกทอดทิ้งเหมือนกับขยะบนถนน ความมั่งคั่งของธรรมชาติตกอยู่ในมือของคนบางคน ซึ่งเป็นกลุ่มเล็ก ๆ เราต้องช่วยกันใช้ทฤษฎีทางเศรษฐกิจและสังคม ช่วยกันบูรณาการเพื่อฟื้นฟูธรรมชาติของเรา
#Laudate Deum จะเป็นชื่อของสมณลิขิตเตือนใจของพระสันตะปาปาฟรังซิสฉบับต่อไป ("Laudate Deum," the title of the next Apostolic Exhortation)
พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงเรียกร้องให้มีทางเลือกอื่นเพื่อช่วยเอาชนะวิกฤตสิ่งแวดล้อม และทรงยกตัวอย่างการใช้แผงโซลาร์เซลล์ เพื่อจ่ายไฟฟ้าให้กับหอประชุมเปาโลที่ 6 และพื้นที่อื่น ๆ ของนครวาติกัน
“เราต้องมีความคิดสร้างสรรค์ในเรื่องเหล่านี้ให้มากเพื่อปกป้องธรรมชาติ” เพราะเห็นได้ชัดว่าไฟฟ้าถูกสร้างขึ้นจากถ่านหิน หรือองค์ประกอบอื่น ๆ ซึ่งมักจะสร้างปัญหาในธรรมชาตินั่นเอง และ “คนหนุ่มสาวที่เราฝึกจะต้องเป็นผู้นำในประเด็นนี้ ข้าพเจ้ามั่นใจ"
ซึ่งพระสมณสาส์นฉบับใหม่นี้จะถูกเผยแพร่ในวันที่ 4 ตุลาคม 2023 โอกาสระลึกถึงนักบุญฟรังซิสอัสซีซี ขอให้ทุกคนติดตามว่าจะเกิดอะไรขึ้น เพราะข้าพเจ้าได้กล่าวถึงสิ่งที่จำเป็นเรียบร้อยแล้ว
#ความเสื่อมโทรมของมนุษย์และสิ่งแวดล้อมเป็นของคู่กัน (Human and environmental degradation go together)
“มีกระบวนการเสื่อมโทรมของสิ่งแวดล้อม ที่เราสามารถพูดได้โดยทั่วไป แต่สิ่งนี้นำไปสู่ด้านล่างของหุบเขา ความเสื่อมโทรมของสภาพความเป็นอยู่ ความเสื่อมโทรมของค่านิยมที่พิสูจน์สภาพความเป็นอยู่เหล่านี้เพราะมันไปด้วยกัน”
"ความไม่เท่าเทียมกัน" ยัง "เห็นได้ชัดจากการไม่สามารถเข้าถึงสิ่งจำเป็นขั้นพื้นฐาน และจากที่นี่ วิสัยทัศน์ทั้งหมดที่ตามความเป็นจริงทางสังคมวิทยา โดยไม่ต้องเอ่ยชื่อ ย่อมทำให้ผู้หญิง ชนเผ่าพื้นเมือง ชาวแอฟริกัน เป็นคนที่มีความ
สามารถน้อยลง "
#การเมืองเป็นอาชีพอันสูงส่ง (Politics as the noblest vocation)
เมื่อเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ อธิการบดีมหาวิทยาลัยควรส่งเสริมการศึกษาในคุณค่าแห่งมนุษยนิยม และการเสวนาแบบพี่น้อง โดยช่วยให้นักศึกษา "เข้าสู่การเมือง" ในฐานะ "กระแสเรียกอันสูงส่ง"
“อย่าลืมว่าอาชีพที่สูงส่งของมนุษย์คือการเมือง ขอให้เราฝึกฝนเยาวชนของเราให้เป็นนักการเมืองในความหมายที่กว้างที่สุด ไม่เพียงแต่จะทำหน้าที่ในพรรคการเมืองที่เป็นกลุ่มเล็ก ๆ เท่านั้น แต่ต้องมีความเปิดกว้างทางการเมือง และรู้วิธีการเจรจากับกลุ่มการเมืองที่มีวุฒิภาวะการเมือง เพราะเป็นอาชีพที่ดำเนินกระบวนการพัฒนา"
#สามภาษาของมนุษย์: ศีรษะ หัวใจ และมือ (The three human languages: head, heart and hands)
หน้าที่ของมหาวิทยาลัยไม่ควรเป็นเพียง "การสอน" เท่านั้น “คุณต้องฝึกเด็กชายและเด็กหญิงให้มีภาษามนุษย์สามภาษา นั่นก็คือ ภาษาศีรษะ ภาษาหัวใจ และภาษามือ
"เพื่อให้พวกเขา 1) เรียนรู้ที่จะคิดในสิ่งที่พวกเขารู้สึกและสิ่งที่พวกเขาทำ 2) รู้สึกถึงสิ่งที่พวกเขาทำและสิ่งที่พวกเขาคิด และ 3) ทำในสิ่งที่พวกเขารู้สึกและสิ่งที่พวกเขาคิด"
ขอให้มหาวิทยาลัยต่าง ๆ “สร้างสรรค์เมื่อเผชิญกับความเป็นจริงและความท้าทาย เป็นผู้สอน ไม่ใช่เพียงผู้เผยแพร่ข้อมูล”