#มีความหวังในการไถ่บาปสำหรับคนบาปอยู่เสมอ (There is always the hope of redemption for a sinner)
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 2 ตุลาคม 2023 ที่ผ่านมา พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงเชิญชวนคริสตชนให้แสดงความจริงใจต่อพระเจ้าเกี่ยวกับความยากลำบาก ความล้มเหลว และความอ่อนแอของพวกเขา และหลีกเลี่ยงสิ่งหน้าซื่อใจคดที่อยู่เบื้องหลัง เพื่อปกปิดความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของพวกเขา
จากพระวรสารของนักบุญมัทธิว (มธ 21: 28-32) ซึ่งพ่อคนหนึ่งขอให้ลูกชายสองคนไปทำงานในสวนองุ่น ลูกชายคนแรกปฏิเสธในตอนแรก แต่คิดซ้ำสองแล้วจึงไป ลูกชายอีกคนหนึ่งตอบว่า "ใช่" ทันที แต่แล้วก็ไม่ได้ไป
การไปทำงานในสวนองุ่นต้องอาศัยการเสียสละและค่าใช้จ่ายในการเสียสละ “ปัญหาไม่ได้เกี่ยวข้องกับการต่อต้านการไปทำงานในสวนองุ่นของพวกเขา มากเท่ากับความจริงใจกับบิดา และกับตัวของพวกเขาเอง"
พระองค์ทรงชี้ให้เห็นว่าลูกชายคนหนึ่งโกหก ในขณะที่อีกคนหนึ่งทำผิดแต่ยังคงจริงใจ ลูกชายคนหนึ่งไม่เพียงแต่ ไม่ต้องการทำตามพระประสงค์ของบิดาเท่านั้น และเขาไม่ต้องการเข้าร่วมการสนทนาหรือพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย (ไม่จริงจังและก็ไม่ลงมือทำ)
#เป็นคนบาปก็ดีกว่าเป็นคนทุจริต (Better a sinner than one who is corrupt)
“เขาจึงซ่อนอยู่ข้างหลังคำว่า “ใช่” เบื้องหลังความเต็มใจที่จอมปลอม ที่ซ่อนความเกียจคร้าน และรักษาหน้าไว้ชั่วคราว เขาผ่านไปโดยไม่มีความขัดแย้ง แต่เขาโกงและหลอกลวงพ่อของเขาไม่เคารพพ่อของเขา วิธีที่เลวร้ายยิ่งกว่าการที่เขาโต้ตอบด้วยคำว่า 'ไม่” ทื่อ ๆ
ปัญหากับคนที่มีพฤติกรรมเช่นนี้ “เขาหรือเธอไม่ใช่คนบาป แต่ทุจริต เพราะพวกเขาโกหกได้โดยไม่ยากเย็นที่จะปกปิด และปกปิดการไม่เชื่อฟังโดยไม่ต้อนรับการสนทนาหรือข้อเสนอแนะที่ซื่อสัตย์ใด ๆ”
#รับผิดชอบต่อพฤติกรรมของตน (Taking responsibility for one’s behaviour)
ลูกชายคนที่หนึ่งกล่าวต่อด้วยความจริงใจว่า 'ไม่' แต่จากนั้นก็คิดใหม่อีกครั้ง และไปทำงานในสวนองุ่น: "เขาไม่สมบูรณ์แบบ แต่จริงใจ"
ลูกชายคนนี้แสดงความไม่เต็มใจ แต่ก็รับผิดชอบต่อพฤติกรรมของเขา พระสันตะปาปาทรงอธิบาย และลงเอยด้วยการตั้งคำถามกับตัวเอง เข้าใจความผิดพลาดของเขา และย้อนรอยย่างก้าวของเขา “เขาเป็นคนบาป เราอาจพูดได้ แต่เขาก็ไม่ได้ทุจริต และมีความหวังในการไถ่บาปอยู่เสมอ”
แต่สำหรับผู้ทุจริต มันยากกว่ามาก "การตอบรับ" ที่เป็นเท็จ ใบหน้าที่สง่างามแต่หลอกลวง และการเสแสร้งของเขา เป็นเหมือน "กำแพงยาง" หนา ๆ ที่อยู่เบื้องหลัง ซึ่งเขาปกปิดไว้จากความไม่รู้สึกผิดชอบชั่วดีของเขา”
#ฉันยินดีที่จะพูดว่าตกลงกับพระบิดาทุกวันหรือไม่? (Am I willing to say ‘yes’ each day to the Father?)
ให้เราถามตนเองว่า พวกเราต้องเผชิญกับความยากลำบากในการใช้ชีวิตอย่างซื่อสัตย์และมีน้ำใจ พวกเราอุทิศตนตามพระประสงค์ของพระบิดาหรือไม่?
“ฉันยินดีที่จะพูดว่า 'ตกลง' ในแต่ละวัน แม้ว่ามันจะต้องเสียค่าใช้จ่ายหรือไม่? และเมื่อฉันล้มเหลว ฉันจริงใจต่อพระเจ้าเกี่ยวกับความยากลำบาก ความล้มเหลว และจุดอ่อนของฉันหรือไม่”
ฉันเต็มใจที่จะกลับใจและย้อนรอยเมื่อฉันทำผิดหรือไม่ “หรือว่าฉันแสร้งทำเป็นว่าทุกอย่างโอเคและใช้ชีวิตโดยสวมหน้ากาก โดยคำนึงถึงตัวเองแต่เพียงการดูดีและชอบธรรมเท่านั้น?”
ให้เราถามตัวเองว่า “ฉันเป็นคนบาปหรือเปล่า” หรือ “มีอะไรเสียหายในตัวฉันหรือเปล่า”
ขอให้พระนางมารีย์ กระจกเงาแห่งความศักดิ์สิทธิ์ โปรดช่วยให้เราเป็นคริสตชนที่จริงใจ