วันอหิงสาสากล (World-Day of Nonviolence) ตรงกับวันที่ 2 ตุลาคมของทุกปี ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันเกิดของมหาตมะ คานธี (2 ตุลาคม 1869) ผู้เป็นแบบอย่างแห่งความยุติธรรม การเคารพผู้อื่น และการประท้วงโดยไม่ใช้ความรุนแรง เพื่อส่งเสริมสันติภาพ ความปรองดอง และความสามัคคีทั่วโลก
“อหิงสา” (nonviolence) เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการสร้างการเปลี่ยนแปลงทั้งในระดับบุคคลและสังคม มีพลังในการลดความโกรธและความก้าวร้าวของผู้คน ส่งเสริมการพัฒนาส่วนบุคคลและปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคลอย่างสันติ
#โลกของเราเต็มไปด้วยความรุนแรง (Our world is full of violence)
พระสันตะปาปาฟรังซิส ทรงกล่าวในสาส์นเนื่องในวันสันติภาพสากลครั้งที่ 50 (1 มกราคม 2017) ว่า “ความรุนแรงไม่ใช่วิธีรักษาโลกที่แตกสลายของเรา” ความรุนแรงเป็นผลมาจากทรัพยากรจำนวนมหาศาล ที่ถูกหันเหไปจากความต้องการในแต่ละวันของเด็ก ครอบครัวที่เผชิญกับความยากลำบาก ผู้สูงอายุ ผู้ทุพพลภาพ และคนส่วนใหญ่ในโลกของเราเพื่อสนับสนุนเป้าหมายทางการทหาร
“การตอบโต้ความรุนแรงด้วยความรุนแรง นำไปสู่การอพยพที่ถูกบังคับ และความทุกข์ทรมานมหาศาล ที่เลวร้ายที่สุด มันสามารถนำไปสู่การเสียชีวิตทั้งทางร่างกายและจิตวิญญาณของผู้คนจำนวนมากหรือไม่ก็ทั้งหมด”
นายอันโต๊นีโอ้ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ (António Guterres, the UN Secretary-General) กล่าวว่า “โลกของเราเผชิญหน้ากับความท้าทายร้ายแรง ได้แก่ ความไม่เท่าเทียมกันที่เพิ่มมากขึ้น ความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้น ความขัดแย้งที่ทวีความรุนแรง และความวุ่นวายทางสภาพอากาศที่เลวร้ายลง”
“เรายังเห็นความแตกแยกที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นภายในประเทศต่างๆ โดยที่ประชาธิปไตยอยู่ภายใต้การคุกคาม คำพูดแสดงความเกลียดชัง และการเหยียดหยามลัทธิเสรีนิยม” เราสามารถเอาชนะปัญหาเหล่านี้ และนำทางโลกไปสู่อนาคตที่มีความสุขและสงบสุขมากขึ้น
#พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงสนับสนุนเรื่องอหิงสา (Pope Francis' support for nonviolence)
พระสันตะปาปาฟรังซิสกล่าวในงานฉลองครบรอบ 60 ปี พระสมณสาส์นสันติภาพบนแผ่นดิน (Pacem in Terris) เมื่อเดือนเมษายน 2023 ว่า “ขอให้เราสร้างอหิงสาทั้งในชีวิตประจำวัน และในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินการของเรา”
พระองค์ยังสนับสนุนพวกเราทุกคนให้ “อธิษฐานภาวนาขอให้วัฒนธรรมแห่งอหิงสาแพร่กระจายมากขึ้น ซึ่งเกี่ยวข้องกับการใช้อาวุธให้น้อยลง ทั้งโดยรัฐและโดยพลเมือง”
นอกจากนั้นทรงเรียกร้องให้มีวัฒนธรรมแห่งการไม่ใช้ความรุนแรงในกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันของเรา “การใช้ชีวิต การพูด และการกระทำโดยปราศจากความรุนแรงไม่ใช่การยอมแพ้ มันไม่ได้สูญเสียหรือยอมแพ้สิ่งใด ๆ แต่เป็นแรงบันดาลใจต่อทุกสิ่ง”
แม้แต่ในสถานการณ์การป้องกันตัวเอง สันติภาพก็เป็นเป้าหมายสูงสุด และสันติภาพถาวรสามารถดำรงอยู่ได้โดยไม่ต้องใช้อาวุธเท่านั้น
#ความสำคัญของวันอหิงสาโลก (Significance of World Nonviolence Day)
การรำลึกถึงวันอหิงสาสากลประจำปี 2023 คือการให้ความรู้และสร้างความตระหนักรู้แก่สาธารณะเรื่องอหิงสา ขณะเดียวกันก็ตอกย้ำเป้าหมายของสังคมที่โดดเด่นด้วยสันติภาพ ความอดทน ความเข้าใจ และการอหิงสา
โดยเน้นย้ำถึงคุณค่าของการแก้ปัญหาโดยสันติ และเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนและชุมชน ให้ใช้วิธีการแก้ไขข้อขัดแย้งที่ไม่ใช้ความรุนแรง นอกจากนี้ ยังเป็นการสนับสนุนและสอนให้เยาวชนได้รับทักษะที่จำเป็น สำหรับการระงับข้อพิพาทอย่างสันติ
#มีความต้องการสันติภาพในโลกของเรา (There is a need for peace in our world)
มหาตมะ คานธี อธิบายว่าอหิงสาเป็น "พลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการกำจัดมนุษยชาติ มีพลังมากกว่าอาวุธทำลายล้างที่ทรงพลังที่สุดที่ประดิษฐ์ขึ้น โดยความเฉลียวฉลาดของมนุษย์"
ดังนั้น อหิงสาไม่ควรตีความว่าหมายถึงการยอมจำนน การงดเว้นจากการกระทำ หรือไม่แยแสเสมอไป แต่เป็นหลักการที่ปฏิเสธการใช้ความรุนแรงทางร่างกาย เพื่อให้บรรลุการเปลี่ยนแปลงทางสังคมหรือการเมือง
#พูดถึงวันข้างหน้า (Chatting the forward)
นายกูเตอร์เรส กล่าวว่า “ถ้าเราเข้าใจ เช่นเดียวกับคานธี ว่าความหลากหลายอันงดงามของครอบครัวมนุษย์ของเรานั้นเป็นสมบัติ ไม่ใช่ภัยคุกคาม หากเราลงทุนในการทำงานร่วมกันทางสังคม บ่มเพาะความกล้าหาญที่จะประนีประนอม และความมุ่งมั่นที่จะร่วมมือ”
อหิงสาจึงหมายความว่า เรารับรองว่าทุกคนมีโอกาสใช้ชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรี โอกาส และสิทธิ โดยไม่คำนึงถึงสถานะ ภูมิหลัง สถานการณ์ หรือความเชื่อ
คานธีเคยกล่าวว่า “ความสามารถของเราในการเข้าถึงความสามัคคีในความหลากหลาย จะเป็นความงดงามและบททดสอบอารยธรรมของเรา”
วันสากลแห่งอหิงสา ได้รับการประกาศอย่างเป็นเอกฉันท์ โดยสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติในเดือนมิถุนายน 2007 เพื่อสร้างความตระหนักรู้ของสาธารณชนและเผยแพร่ข้อความเกี่ยวกับสันติวิธี