เมื่อวันพุธที่ 4 ตุลาคม 2023 พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงเป็นประธานในพิธีบูชาขอพระคุณ โอกาสเปิดการประชุมสมัชชาบิชอปสากล สมัยสามัญ ครั้งที่ 16 ณ จัตุรัสนักบุญเปโตร นครรัฐวาติกัน ทรงขอเชิญชวนทุกคนให้ก้าวเดินตามองค์พระจิตเจ้า “ด้วยความไว้วางใจและด้วยความยินดี”

พิธีดังกล่าวเริ่มต้นด้วยบทเร้าวิงวอนบรรดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย (Laudes Regiae) ที่เรียบเรียงทำนองขึ้นมาใหม่ เพื่องวิงวอนขอการคุ้มครอง และการอวยพรจากพระเจ้าสำหรับพระสันตะปาปาฟรังซิส บรรดาบิชอป ผู้นำบ้านเมือง และฝูงแกะที่ได้รับมอบหมายจากพระองค์

พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงตรัสในบทเทศน์ของพระองค์ว่า “ช่วงเวลาที่ยากลำบาก” ในพันธกิจทางโลกของพระเยซูเจ้า ดังที่ได้เล่าไว้ในพระวรสารประจำวันนี้ “ในช่วงเวลาแห่งความรกร้างว่างเปล่า” “พระเยซูเจ้าทรงมีสายพระเนตรที่สามารถมองเห็นได้ไกลกว่านั้น พระองค์ทรงสรรเสริญสติปัญญาของพระบิดาเจ้า และทรงสามารถแยกแยะความดีที่เติบโตซึ่งมองไม่เห็น เมล็ดพืชแห่งพระวาจาได้รับการต้อนรับจากคนธรรมดาสามัญ แสงสว่างแห่งอาณาจักรของพระเจ้าที่ส่องหนทางแม้ในเวลากลางคืน”

ในการเริ่มต้นของการทำสมัชชา “เราไม่ต้องการวิสัยทัศน์ที่เป็นธรรมชาติล้วน ๆ ซึ่งประกอบไปด้วยกลยุทธ์ของมนุษย์ การคำนวณทางการเมือง หรือการต่อสู้ทางอุดมการณ์ เรามาที่นี่เพื่อเดินไปด้วยกันในสายพระเนตรของพระเยซูเจ้า ผู้ทรงได้รับพระพรมาจากพระบิดาและต้อนรับผู้ที่เหนื่อยล้าและถูกกดขี่”

#การจ้องมองที่เป็นพร (A gaze that blesses)

แม้จะเผชิญหน้ากับการถูกปฏิเสธ แต่พระเยซูเจ้าก็ไม่ยอมให้พระองค์เอง “ถูกคุมขังด้วยความผิดหวัง” แต่หันไปมองที่พระบิดาเจ้าแทน ทรง “สงบได้แม้ในลมพายุ”

พระเยซูเจ้าทรงเชื้อเชิญเราให้เป็นพระศาสนจักร ที่ใคร่ครวญถึงการกระทำของพระผู้เป็นเจ้าและมองเห็นปัจจุบัน “พระศาสนจักรที่ไม่เผชิญกับความท้าทายและปัญหาในปัจจุบัน ด้วยวิญญาณที่แตกแยกและโต้เถียง แต่ตรงกันข้าม กลับหันไปมองพระเจ้าผู้ทรงเป็นหนึ่งเดียวกัน อวยพร และเทิดทูนพระองค์ ด้วยความยำเกรงและความอ่อนน้อมถ่อมตน โดยยอมรับว่าพระองค์เป็นพระเจ้าองค์เดียวของพระศาสนจักร ”

พระสันตะปาปาฟรังซิสอ้างถึงพระดำรัสของอดีตพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ที่ว่า “คำถามพื้นฐาน” ที่การสมัชชบิชอปสากลกำลังเผชิญอยู่คือ “เราจะสื่อสารความเป็นจริง” ที่พระเจ้าตรัส “กับผู้คนในปัจจุบันได้อย่างไร เพื่อให้มันกลายเป็นความรอด”

#การจ้องมองอย่างเป็นมิตรของพระเยซูเจ้า (The welcoming gaze of Christ)

“ตลอดชีวิตของพระเยซูเจ้า” พระองค์ทรงเฝ้ามองพระเจ้าพระบิดาอย่างเป็นมิตร “ต่อผู้อ่อนแอที่สุด ผู้ทนทุกข์ และผู้ถูกทอดทิ้ง”

“การจ้องมองอย่างเป็นมิตรของพระเยซูเจ้ายังเชิญชวนเราให้เป็นพระศาสนจักรที่เป็นมิตร” เรียกเราให้มีทัศนคติภายในที่ช่วยให้เรา “เผชิญหน้ากันโดยไม่ต้องกลัว”

“ในการเสวนาของสมัชชา ใน 'การเดินทางในพระจิตเจ้า' อันสวยงามนี้ ที่เรากำลังร่วมกันในฐานะประชากรของพระเจ้า เราสามารถเติบโตในความเป็นหนึ่งเดีวกัน และมิตรภาพกับองค์พระผู้เป็นเจ้า เพื่อพิจารณาความท้าทายในปัจจุบันที่มองผ่านพระเนตรของพระองค์”

#ตามรอยเท้าของนักบุญฟรังซิส (Following in the footsteps of St Francis)

พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงระลึกถึง การทรงเรียกของพระเยซูเจ้าที่มีต่อนักบุญฟรังซิสให้ “ไปซ่อมแซมพระศาสนจักรของเรา” “สมัชชาทำหน้าที่เตือนเราถึงสิ่งนี้ พระศาสนจักรที่เป็นประดุจมารดาของเรา ต้องการการชำระให้บริสุทธิ์อยู่เสมอ” อาศัย “อาวุธแห่งข่าวดี นั่นก็คือ ความอ่อนน้อมถ่อมตน ความเป็นหนึ่งเดียวกัน การอธิษฐานภาวนา และกิจการเมตตาสงเคราะห์ต่าง ๆ”

#สถานที่แห่งพระหรรษทานและการมีส่วนร่วม (A place of grace and communion)

การสมัชชาบิชอปสากล “ไม่ใช่การประชุมทางการเมือง แต่เป็นการประชุมโดยพระจิตเจ้า ไม่ใช่รัฐสภาที่มีการแบ่งแยกขั้ว แต่เป็นสถานที่แห่งความสง่างามและความเป็นหนึ่งเดียวกัน”

“พระจิตเจ้ามักจะทำลายความคาดหวังของเราในการสร้างสิ่งใหม่ ที่เหนือกว่าการคาดการณ์และทัศนคติในแง่ลบของเรา” ดังนั้น “ให้เราเปิดใจรับพระองค์ผู้เป็นพระเอก คือพระจิตเจ้า และให้เราเดินไปกับพระองค์ด้วยความไว้วางใจและด้วยความยินดี”