พระสันตะปาปาทรงสนับสนุน #ความใกล้ชิดด้วยความเห็นอกเห็นใจ แก่ผู้แสวงบุญในวิหารต่าง ๆ ทั่วโลก (Pope encourages "compassionate closeness" for shrine pilgrims)
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 9 พฤศจิกายน 2023 พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงต้อนรับบรรดาอธิการหรือเจ้าอาวาสวิหาร (Shrine) สำหรับการแสวงบุญที่มาจากทั่วโลก ณ หอประชุมเปาโลที่ 6 นครรัฐวาติกัน ในการประชุมนานาชาติครั้งที่สอง ซึ่งเป็นความคิดริเริ่มที่ได้รับการส่งเสริมโดยอาร์ชบิชอปริโน ฟิซิเชลลา (Archbishop Rino Fisichella) และจัดโดยสมณกระทรวงเพื่อการประกาศข่าวดี (Dicastery for Evangelisation)
พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงแนะนำให้ "สถานที่พิเศษ" เหล่านี้เป็นสถานที่อธิษฐานภาวนาเป็นอันดับแรกและสำคัญที่สุด การให้บริการศีลศักดิ์สิทธิ์ และต้อนรับผู้แสวงบุญ พระองค์สนับสนุนให้พวกเขาปลอบใจผู้มาเยี่ยมชมวิหาร ที่กำลังแบกภาระ และปัญหาต่าง ๆ ผ่านทาง "ความใกล้ชิดที่มีความเห็นอกเห็นใจ"
ผู้คนไปวิหารเพื่ออธิษฐานภาวนา เพื่อเพิ่มความมั่นใจในอนาคต และเหนือสิ่งอื่นใด เพื่อหลุดพ้นจากภาระ ความโศกเศร้า และความกังวลที่มักกดดันจิตใจและจิตวิญญาณ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้เต็มไปด้วยการปลอบโยนและความเมตตา ให้ฉลาดในการเลือกพระสงฆ์เพื่อฟังคำสารภาพบาป เพื่อไม่ให้ใคร "พบอุปสรรคในประสบการ์แห่งการคืนดีอย่างสมบูรณ์ ”
#ใช้วิจารณญาณในการคัดเลือกพระสงฆ์เพื่อฟังคำสารภาพบาป (Discernment in the selection of priests to hear confessions)
“สถานที่พิเศษ” เหล่านี้ที่ดึงดูดผู้คนหลายพัน หรือหลายล้านคนในแต่ละปี แท้จริงแล้วคือ “สถานที่อธิษฐานภาวนา ที่ได้รับสิทธิพิเศษอย่างแท้จริง” ได้รับการดูแลอย่างดีในพิธีบูชาขอบพระคุณ และการโปรดศีลอภัยบาป
พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงเรียกร้องให้มี “วิจารณญาณที่ดี” ในการคัดเลือกพระสงฆ์ผู้ฟังการสารภาพบาป “อย่าให้เกิดขึ้นเลยที่ผู้ที่มาสารภาพบาปโดยได้รับความเมตตาจากพระบิดา จะต้องพบกับอุปสรรคในการคืนดีอย่างแท้จริงและสมบูรณ์ จะต้องไม่เกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวิหารที่พวกเขาพบอุปสรรค ... เพราะที่นี่ความเมตตาของพระเจ้าได้ไหลหลั่งออกมาอย่างล้นเหลือ”
#ตระหนักถึงความสำคัญของการนมัสการ (Recognizing the importance of adoration)
จะต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษกับการนมัสการในวิหาร เนื่องจาก "สภาพแวดล้อมและบรรยากาศของพระศาสนจักรของเรา ไม่ได้เชิญชวนให้เรามารวมตัวกันและนมัสการเสมอไป" บางครั้ง "เราได้สูญเสียบรรยากาศแห่งการนมัสการไปบ้างแล้ว และเราจำเป็นต้องนำมันกลับคืนมา"
อีกทั้งควร "ส่งเสริมประสบการณ์แห่งความเงียบในการรำพึงภาวนาของผู้แสวงบุญ และแม้ว่าจะไม่ใช่เรื่องง่ายของการชื่นชมความเงียบ" สิ่งนี้ "หมายถึงการช่วยให้พวกเขาจับจ้องไปที่แก่นแท้ของความเชื่อ"
“ความรักไม่ใช่การหันเหไปจากชีวิต แต่เป็นพื้นที่ที่ให้ความหมายกับทุกสิ่ง รับของประทานแห่งความรักจากพระเจ้า และสามารถเป็นพยานในการทำกิจเมตตาสงเคราะห์แห่งความเป็นพี่น้องกัน”
#พระธรรมล้ำลึกแห่งการปลอบโยน (The mystery of consolation)
ของประทานอีกอย่างหนึ่งก็คือ "พระธรรมล้ำลึกแห่งการปลอบโยนทางด้านจิตใจ" ผู้คนไปที่พระวิหารเพื่อได้รับการปลอบใจ เพราะพวกเขาแบกภาระทั้งกายและใจ ความทุกข์ทรมาน และความกังวล! ความเจ็บป่วยของผู้เป็นที่รัก การสูญเสียสมาชิกในครอบครัว สถานการณ์มากมายในชีวิตมักเป็นสาเหตุของความเหงาและความเศร้า ซึ่งวางอยู่บนแท่นบูชาและรอคำตอบ”
“การปลอบโยนไม่ใช่แนวคิดที่เป็นนามธรรม และไม่ได้ถูกสร้างขึ้นเป็นคำพูดเป็นอันดับแรก แต่เป็นความใกล้ชิดที่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และอ่อนโยนที่เข้าใจความเจ็บปวด และความทุกข์ทรมาน ความเห็นอกเห็นใจ และใกล้ชิดที่อ่อนโยน นี่คือรูปแบบของพระเจ้า คือ ความใกล้ชิด ความเห็นอกเห็นใจ และความอ่อนโยน”
ดังนั้นการปลอบโยนจึงเป็น "การทำให้พระเมตตาของพระเจ้าจับต้องได้" และนี่คือเหตุผลว่าทำไม "การปลอบโยน" จึงขาดไม่ได้ในสักการสถาน
#การต้อนรับอันอบอุ่นแก่ผู้แสวงบุญ (A warm welcome for pilgrims)
"ขอให้การปลอบโยนและความเมตตามีมากมายในพระวิหารของเรา!" และผู้แสวงบุญทุกคนต้องการความหวัง เพราะ "ใคร ๆ ก็ไปพระวิหารเพื่อมองไปสู่อนาคตด้วยความมั่นใจมากขึ้น"
การไปแสวงบุญแสดงให้เห็นสิ่งนี้ ในขณะที่บรรดาผู้ที่ออกเดินทางกำลังมองหา "จุดหมายปลายทางที่แน่นอน" ด้วยความหวังในการอธิษฐานภาวนา เพราะ "พวกเขารู้ว่ามีเพียงความเชื่อที่เรียบง่าย และความถ่อมตัวเท่านั้น ที่จะได้รับพระคุณตามที่พวกเขาต้องการ ” ดังนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญที่เมื่อกลับบ้าน ผู้แสวงบุญ "รู้สึกสมหวังและสงบสุข"
“ในพระวิหารของเรา มีการเอาใจใส่อย่างมากในการต้อนรับ และถูกต้องเช่นกัน โปรดอย่าลืมสิ่งนี้ ยินดีต้อนรับผู้แสวงบุญด้วยดี ในเวลาเดียวกัน จะต้องให้การดูแลอภิบาลมากพอ ๆ กันกับช่วงเวลาที่ผู้แสวงบุญออกจากพระวิหารเพื่อกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ ขอให้พวกเขาได้รับคำพูดและสัญญาณแห่งความหวัง เพื่อให้การแสวงบุญได้บรรลุความหมายที่สมบูรณ์”
#ปี2024จะอุทิศให้กับการอธิษฐานภาวนาเนื่องในโอกาสปีศักดิ์สิทธิ์2025ที่กำลังจะมาถึง (2024 dedicated to prayer in view of Jubilee)
ในปีหน้า เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับปีศักดิ์สิทธิ์ 2025 จะเป็นปีที่อุทิศให้กับการอธิษฐานภาวนา โดยจะมีการเผยแพร่เอกสารอธิบายเพิ่มเติม เพื่อ "ช่วยให้ค้นพบแก่นแท้ของการอธิษฐานภาวนาได้อีกครั้งหนึ่ง"
“ให้เราพับแขนเสื้อของเราและต่ออายุความชื่นชมยินดีและความมุ่งมั่นของการเป็นบุคคลแห่งการอธิษฐานภาวนาทุกวัน อธิษฐานจากใจ”
#ก้าวไปกับโป๊ป 390
#chanthaburidiocese