#ความตะกละบิดเบือนของขวัญจากพระเจ้าแห่งอาหารประจำวันของเรา (Gluttony distorts God's gift of 'our daily bread')
เมื่อวันพุธที่ 10 มกราคม 2024 โอกาสเข้าเฝ้าประจำสัปดาห์ พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงไตร่ตรองถึงบาปแห่งความตะกละ และทรงเตือนว่าความสัมพันธ์ที่ไม่สมดุลกับอาหารสามารถทำลายโลกและหัวใจของเราเองได้
การกินเค้กสักชิ้นไม่ใช่ปัญหา เนื่องจากพระเยซูเจ้าทรงชื่นชมอาหารดี ๆ และมิตรภาพ แต่กลับมองข้ามหรือบิดเบือน "อาหารประจำวันของพระเจ้า" ซึ่งสามารถทำลายโลกได้อย่างช้า ๆ แต่แน่นอน
#พระเยซูเจ้าทรงเพลิดเพลินกับอาหารมื้ออร่อยร่วมกับคนอื่นๆ (Jesus enjoyed good meals with others)
จากมุมมองของคริสตชน อาหารไม่ใช่สิ่งที่ "ไม่ดี" แต่สิ่งที่เสี่ยงต่อการเป็นปัญหาก็คือความสัมพันธ์ของเรากับอาหาร พระเจ้าทรงปฏิเสธการแยกพิธีกรรมของกฎหมายฮีบรูระหว่างอาหารบริสุทธิ์และไม่บริสุทธิ์
พระเยซูเจ้าทรงยืนกรานว่า ทรงเห็นด้วยการกระทำของพระองค์เองว่า การเพลิดเพลินกับอาหารดี ๆ หรือเหล้าองุ่นนั้นไม่ใช่เรื่องผิด ดังที่เห็นได้ในพระคัมภีร์เมื่อพวกฟาริสีถามพระองค์เกี่ยวกับสาวกของพระองค์ ที่ไม่ถือศีลอดขณะรับประทานอาหารเย็นที่บ้านของเลวีกับคนเก็บภาษี และคนบาป (มก 2:18-20)
พระองค์ต้องการให้เราร่วมยินดีกับพระองค์ที่โต๊ะอาหาร แต่ก็เตรียมที่จะสมดุลกับการงดและอดอาหาร ในช่วงเวลาแห่งความทุกข์ทรมาน ดังเช่นที่คริสตชนทำในช่วงเข้าเทศกาลมหาพรต
สิ่งสำคัญคือการบิดเบือนความสัมพันธ์ของเรากับอาหาร และการเปลี่ยนแปลงของเรา และหัวใจของเราอย่างไร
“พระวรสารบอกอะไรเราเกี่ยวกับเรื่องนี้ ให้เรามองไปที่พระเยซูเจ้า อัศจรรย์ครั้งแรกของพระองค์ที่งานเลี้ยงแต่งงานที่เมืองคานา เผยให้เห็นความเห็นอกเห็นใจของพระองค์ต่อความสุขของมนุษย์ พระองค์ทรงใส่ใจว่า งานเลี้ยงจบลงด้วยดี และมอบไวน์ชั้นดีแก่เจ้าสาวและเจ้าบ่าว"
เรามักจะเห็นภาพพระเยซูเจ้ารับประทานอาหารที่โต๊ะ ตรงข้ามกับนักบุญยอห์นผู้ทำพิธีล้าง ผู้เป็นที่จดจำในเรื่องการบำเพ็ญพรต ในฐานะแขกในงานอภิเษกสมรสที่เมืองคานา พระเยซูเจ้าทรงสอนเรื่องความดีของอาหารและเครื่องดื่ม และความสุขของการร่วมโต๊ะอาหาร
พระสันตะปาปาฟรานซิสจึงทรงกระตุ้นให้ผู้มีความเชื่อรู้สึกขอบคุณเสมอ สำหรับของขวัญจากพระเจ้า ซึ่งเป็นอาหารประจำวันของเรา และ "คำนึงถึงความรับผิดชอบของเราที่มีต่อผู้อื่น และมีคุณธรรมในการชื่นชมสิ่งดี ๆ ในโลกนี้"
#ความสัมพันธ์ของเรากับอาหารจะต้องมีความสมดุล (Our relationship with food must be balanced)
แนวโน้มของสังคมที่จะมีความสัมพันธ์ที่บิดเบี้ยวหรือไม่สมดุลกับอาหาร ในสังคมที่มีปัญหาเรื่องการกินผิดปกติ ซึ่งบ่อยครั้งมักจะสิ้นเปลืองอาหารปริมาณมาก แม้ว่าผู้คนจำนวนมากในโลกของเรากำลังหิวโหย นิสัยการกินของเราควรอยู่ในระดับปานกลาง และมีความรับผิดชอบต่อสังคม
ความเจ็บป่วยเหล่านี้ "มักจะเจ็บปวดมาก" "ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับความทรมานทางจิตใจและจิตวิญญาณ"
“อาหารคือการแสดงสิ่งที่อยู่ภายในใจว่า ใจชอบที่จะสมดุลหรือความไม่พอประมาณ, ความสามารถในการขอบคุณหรืออวดดีในการปกครองตนเอง, การเอาใจใส่ของผู้ที่รู้จักแบ่งปันอาหารกับคนขัดสน, หรือความเห็นแก่ตัวของผู้ที่กักตุนทุกสิ่งเพื่อตัวพวกเขาเอง”
คนเรารับประทานอาหารอย่างไร เผยให้เห็นบางสิ่งเกี่ยวกับจิตวิญญาณของพวกเขา มีสุภาษิตที่ว่า "เรากินเพื่ออยู่ เราไม่ได้อยู่เพื่อกิน" พฤติกรรมการบริโภคของเรา ซึ่งอาจดูเป็นเรื่องส่วนตัวก็สามารถส่งผลกระทบต่อสังคม และโลกโดยรวมได้เช่นกัน
หากเราเห็นจากมุมมองทางสังคม ความตะกละคือ "บางทีอาจเป็นความชั่วร้ายที่อันตรายที่สุดที่กำลังฆ่าโลกของเรา"
#ผลกระทบต่อโลกทั้งใบ (Implications for the entire world)
“เราได้ตะครุบทุกสิ่งเพื่อเป็นนายของทุกสิ่ง แม้ว่าทุกสิ่งจะได้รับความไว้วางใจในการดูแลของเราก็ตาม” “นี่คือบาปมหันต์ ความเดือดดาลของท้อง เราได้ลบชื่อของมนุษย์เพื่อเรียกอีกคนหนึ่งว่า 'ผู้บริโภค'”
แม้ “เราถูกสร้างให้เป็นชายและหญิงแห่ง “ศีลมหาสนิท” เราสามารถขอบพระคุณ และสุขุมรอบคอบในการใช้โลกได้” เราก็ได้ “กลายเป็นผู้ล่าแทน และตอนนี้เรากำลังตระหนักว่ารูปแบบ “ความตะกละตะกลาม” นี้ ' ได้ทำร้ายโลกของเราเป็นอย่างมาก"
ขอให้ทุกคนทูลขอพระเจ้าให้พยายามดำเนินชีวิตอย่างมีสติ
#ก้าวไปกับโป๊ป 451 #PopeatAudience
#chanthaburidiocese