พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงระบุสิบหัวข้อสำหรับกลุ่มศึกษาของสมัชชาบิชอปสากล (Pope Francis indicates ten themes for Synod Study Groups)
พระสันตะปาปาฟรังซิสส่งจดหมายถึงพระคาร์ดินัล มาริโอ เกรช (Cardinal Mario Grech) เลขาธิการสมัชชาใหญ่บิชอปสากล และสรุปประเด็นการอภิปราย 10 ประเด็น ที่กลุ่มศึกษาจะต้องพิจารณาก่อนการประชุมสมัชชาครั้งที่สอง ที่จะมาถึงในเดือนตุลาคม 2024 นี้
พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงระบุหัวข้อการสนทนาในจดหมายที่ส่งถึงพระคาร์ดินัล มาริโอ เกรช เลขาธิการสำนักเลขาธิการสมัชชาใหญ่ ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 14 มีนาคม 2024 นี้
ในเวลาเดียวกัน สำนักข่าวของสันตะสำนักได้จัดงานแถลงข่าว เพื่อแสดงเอกสารใหม่สองฉบับจากสำนักเลขาธิการทั่วไป
1) เอกสารฉบับแรกมีชื่อว่า "เราจะเป็นพระศาสนจักรที่ก้าวเดินไปด้วยกันในพันธกิจได้อย่างไร? โดยมี 5 มุมมองเพื่อเจาะลึกด้านเทววิทยา ในมุมมองของการประชุมครั้งที่สอง"
2) ในขณะที่ฉบับที่สองคือ "กลุ่มศึกษาเกี่ยวกับคำถามที่เกิดขึ้นในการประชุมใหญ่ของสมัชชาบิชอปสากล สมัยสามัญครั้งที่ 16 ครั้งที่ 1 ตุลาคม 2023 สมัชชาบิชอปสากลจะกระชับความร่วมมือกับสมณสภาต่าง ๆ ของโรมันคูเรียให้ลึกซึ้งยิ่งมากขึ้น”
ในจดหมายถึงพระคาร์ดินัลเกรช พระสันตะปาปากล่าวว่า รายงานการสังเคราะห์ "ระบุประเด็นทางเทววิทยาที่สำคัญหลายประเด็น ซึ่งทั้งหมดนี้มีระดับที่แตกต่างกันออกไปที่เกี่ยวข้องกับการฟื้นฟูการก้าวเดินไปด้วยกันของพระศาสนจักร โดยไม่มีผลกระทบทางด้านกฎหมายและด้านอภิบาล" "ปัญหาเหล่านี้โดยธรรมชาติแล้วต้องมีการศึกษาเชิงลึก"
#กลุ่มศึกษาเพื่อตรวจสอบประเด็นต่างๆ (Study Groups to examine issues)
“สิ่งเหล่านี้จะต้องถูกจัดเตรียมขึ้นสำหรับการสมัชชาครั้งที่สอง” ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-27 ตุลาคม 2024 นี้ พระสันตะปาปาตรัสว่า “ข้าพเจ้ากำลังจัดให้พวกเขาได้รับมอบหมายให้อยู่ในกลุ่มศึกษาเฉพาะเจาะจง จึงจะสามารถตรวจสอบได้ถูกต้อง”
“นี่จะเป็นหนึ่งในผลของกระบวนการของสมัชชาบิชอปสากลที่เปิดตัวไปแล้วเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2021” พระสันตะปาปาฟรังซิสยังทรงเตือนอีกว่า การปรึกษาหารือนี้จะกระทำตามเจตนารมณ์ของบันทึกข้อความภายในคูเรียของวาติกันของพระองค์ (chirograph) เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2024 ของพระองค์ ซึ่งพระองค์ทรงกำหนดว่า "สำนักเลขาธิการแห่งโรมันคูเรียจะร่วมมือกัน 'ตามความสามารถเฉพาะของพวกเขา ในงานของสำนักเลขาธิการทั่วไป ของสมัชชาบิชอปสากล โดยการจัดตั้งกลุ่มศึกษาที่จะเริ่มต้นด้วยวิธีการประชุมเสวนาเพื่อศึกษาเชิงลึกเกี่ยวกับประเด็นสำคัญบางประการที่ปรากฏในการประชุมสมัชชาสามัญสามัญครั้งที่ 16 ของสมัชชาบิชอสากล"
สำนักเลขาธิการของสมัชชาบิชอปสากล ได้รับความไว้วางใจให้จัดตั้งกลุ่มศึกษาดังกล่าวตามข้อตกลงกับสำนักเลขาธิการของโรมันคูเรีย
#การพิจารณาประสบการณ์ต่างๆ (Considering experiences)
“พวกเขาจะต้องทำเช่นนั้นในลักษณะหนึ่งด้วย ขอเชิญผู้อภิบาลและผู้เชี่ยวชาญจากทุกทวีปมาเป็นส่วนหนึ่งของพวกเขา และคำนึงถึงไม่เพียงแต่การศึกษาที่มีอยู่แล้วเท่านั้น แต่ยังรวมถึงประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องมากที่สุดที่เกิดขึ้นใน ประชากรของพระเจ้ามารวมตัวกันในพระศาสนจักรท้องถิ่น"
“สิ่งสำคัญคือกลุ่มศึกษาที่กล่าวมาข้างต้น ทำงานตามวิธีการประชุมของการสมัชชาที่แท้จริง” โดยขอให้พระคาร์ดินัลเกรชทำหน้าที่เป็น “ผู้รับประกัน”
ทั้งหมดนี้ พระสันตะปาปาทรงเสนอแนะว่า "จะช่วยให้การประชุมสมัชชาใหญ่ในวาระที่สอง มุ่งความสนใจไปที่หัวข้อทั่วไปที่ข้าพเจ้ามอบหมายให้ในขณะนั้นได้ง่ายขึ้น และบัดนี้ก็สามารถสรุปเป็นคำถามได้ว่า 'เราจะทำอย่างไรเพื่อที่จะเป็นพระศาสนจักรที่ก้าวเดินไปด้วยกันในพันธกิจ?'"
พระสันตะปาปาฟรังซิสตรัสว่า กลุ่มศึกษาจะเสนอรายงานเบื้องต้นเกี่ยวกับกิจกรรมของพวกเขาในการประชุมสมัยที่สอง และจะตั้งเป้าหมายหากเป็นไปได้ เพื่อสรุปแถลงการณ์สุดท้าย (mandate) ของพวกเขาภายในเดือนมิถุนายน 2025
#สิบหัวข้อสำหรับกลุ่มการศึกษา (Ten themes for Study Groups)
“หลังจากพิจารณาทุกประเด็นแล้ว” พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงเขียนว่า “ข้าพเจ้าขอบัญชาให้กลุ่มต่าง ๆ ที่ถูกกล่าวถึงในหัวข้อต่าง ๆ ด้านล่าง ได้ทำการศึกษาเพิ่มเติมโดยพิจารณาจากเนื้อหาของรายงานการสังเคราะห์” (Synthesis Report หรือ SR)
หัวข้อทั้ง 10 ประการที่พระสันตะปาปาทรงอธิบายไว้มีดังต่อไปนี้:
1. ความสัมพันธ์ระหว่างพระศาสนจักรคาทอลิกตะวันออกและพระศาสนจักรลาติน (SR 6)
2. การฟังเสียงร้องของผู้ยากจน (SR 4 และ 16)
3. พันธกิจในสภาพแวดล้อมดิจิทัล (SR 17)
4. การทบทวนการอบรมพระสงฆ์ตามแนวทางใหม่ของสมณสภาเพื่อพระสงฆ์ (Dicastery for the Clergy) ของเอกสารของขวัญแห่งกระแสเรียกแห่งการเป็นสงฆ์ (Ratio Fundamentalis Institutionis Sacerdotalis) ในมุมมองของการก้าวเดินไปด้วยกันในพันธกิจ (SR 11)
5. เรื่องเทววิทยาและบัญญัติบางประการเกี่ยวกับรูปแบบต่าง ๆ ของศาสนบริกรในพระศาสนจักร (SR 8 และ 9)
6. การแก้ไขในมุมมองของการก้าวเดินไปด้วยกันในพันธกิจ เอกสารเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างบิชอป นักบวชชายหญิง และ องค์กรต่าง ๆ ของพระศาสนจักร (SR 10)
7. แง่มุมบางประการของบุคคลและพันธกิจของบิชอป (หลักเกณฑ์ในการคัดเลือกผู้ที่เหมาะสมที่จะเป็นบิชอป หน้าที่ตุลาการของบิชอป รูปแบบของการเข้าเฝ้าพระสันตะปาปาของบรรดาบิชอปต่าง ๆ ทั่วโลกตามวาระสามัญ (ad limina Apostolorum visits) ในมุมมองของการก้าวเดินไปด้วยกันในพันธกิจ (SR 12 และ 13)
8. บทบาทของผู้แทนสันตะปาปาในมุมมองของการก้าวเดินไปด้วยกันในพันธกิจ (SR 13)
9. เกณฑ์ทางเทววิทยาและกระบวนการของการก้าวเดินไปด้วยกันสำหรับการแบ่งปันการตัดสินด้านหลักคำสอน การอภิบาล และจริยธรรมที่เป็นข้อขัดแย้งอยู่ในปัจจุบัน (SR 15)
10. ผลของการทำคริสตศาสนจักรสัมพันธ์ทั่วโลกในการดำเนินการในพระศาสนจักรจักร (SR 7)
พระสันตะปาปาฟรังซิส เน้นย้ำสำนักเลขาธิการสมัชชาบิชอปสากลอีกครั้งว่า ให้มีหน้าที่เตรียม "โครงร่างของงานเพื่อเตรียมระบุไว้ในแถลงการณ์สุดท้าย (mandate) ของกลุ่มต่าง ๆ ตามข้อบ่งชี้ของข้าพเจ้า"
พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงปิดท้ายด้วยการขอบคุณพระคาร์ดินัลเกรช สำหรับงานที่บรรลุผลสำเร็จจนถึงขณะนี้ และทรงให้ความมั่นใจแก่ "ทุกคนที่ร่วมมืออย่างไม่เห็นแก่ตัวในการเดินทางที่กำลังดำเนินอยู่นี้" ในพระพรและการร่วมเดินทางของพระองค์
#ก้าวไปกับโป๊ป 511 #synodality #synod #synodal #synodalchurch #generalassembly #สมัชชา #สมัชชาบิชอปสากล #สมัชชาบิชอปสากลครั้งที่16 #การก้าวเดินไปด้วยกัน #ก้าวไปด้วยกัน #สังฆมณฑลจันทบุรี #chanthaburidiocese