#พระคัมภีร์แสดงให้เห็นความใกล้ชิดของพระเยซูเจ้าต่อมนุษยชาติที่ต้องทนทุกข์ (Pope Francis: ‘Bible shows Jesus’ closeness to suffering humanity’)
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 11 เมษายน 2024 พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงพบปะกับสมาชิกของคณะกรรมการพระคัมภีร์แห่งสันตะสำนัก (Pontifical Biblical Commission) โอกาสการประชุมใหญ่ประจำปีในกรุงโรม หัวข้อ “ความเจ็บป่วยและความทุกข์ทรมานในพระคัมภีร์” ทรงสนับสนุนให้นักวิชาการด้านพระคัมภีร์สำรวจแบบอย่างของพระเยซูเจ้า ในเรื่องความรักความเมตตา และการไม่แบ่งแยกเมื่อต้องเผชิญหน้ากับความทุกข์ทรมานของผู้อื่น
“ธรรมชาติที่เป็นบาดแผลของเรา การแบกรับความเป็นจริงของข้อจำกัด และความจำกัดภายในตัวมันเอง และทนทุกข์กับความขัดแย้งของความชั่วร้ายและความเจ็บปวด”
#การเปลี่ยนแปลงตะแกรงแห่งความทุกข์ (Trasforming the ‘sieve of suffering’)
หัวข้อความทุกข์ทรมานและความเจ็บป่วยของมนุษย์อยู่ใกล้หัวใจของพระองค์ เป็นสิ่งที่คริสตชนทุกคนถูกเรียกให้เผชิญหน้าอย่างมีมนุษยธรรม
แทนที่จะหลีกเลี่ยงหัวข้อเรื่องความทุกข์เหมือนข้อห้าม เราควรอดทนต่อการทดลอง “โดยดำเนินชีวิตสัมพันธ์กับผู้อื่น” และยอมให้พระผู้เป็นเจ้าเปลี่ยน “ตะแกรงแห่งความทุกข์” ให้เป็นโอกาสที่จะก้าวหน้าและเติบโตในศรัทธา
พระเยซูเจ้า “ทรงตักเตือนเราให้ดูแลผู้ที่อยู่ในสถานการณ์ทุพพลภาพ ด้วยความมุ่งมั่นที่จะเอาชนะความเจ็บป่วย ในเวลาเดียวกัน พระองค์ทรงเชิญชวนเราอย่างอ่อนโยนให้ร่วมทนทุกข์ เพื่อรับข้อเสนอแห่งความรอดของพระองค์ ดังเมล็ดพืชที่ออกผล”
#การสัมผัสความทุกข์ทรมานไม่ใช่การพูดคำซ้ำซาก (Touching suffering, not offering trite words)
ในเรื่องของความเมตตา ข้อความในพระคัมภีร์หลายข้อที่พระเยซูเจ้าทรงรู้สึกประทับใจ โดยผู้ที่พระองค์พบผู้กำลังทนทุกข์ เช่น ฝูงชนที่เหน็ดเหนื่อยซึ่งพระองค์เลี้ยงอาหาร คนตาบอดที่วิงวอนพระองค์ และคนป่วยจำนวนมากที่พระองค์ทรงต้อนรับและรักษา
“พระเยซูเจ้าไม่ได้อธิบายความทุกข์ แต่ทรงโน้มไปทางผู้ทนทุกข์ พระองค์ไม่ได้เข้าใกล้ความเจ็บปวดด้วยการให้กำลังใจทั่วไป หรือการปลอบประโลมใจแบบเป็นหมัน แต่ยอมรับบทบาทของมัน และยอมให้พระองค์เองได้สัมผัสกับมัน”
พระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้เสนอ “หนังสือบันทึกความรู้สึก” หรือคู่มือวลีที่เตรียมไว้เพื่อพูดกับผู้ที่กำลังเจ็บปวด
ดังที่ชัดเจนในหนังสือโยบ พระคัมภีร์ “แสดงให้เราเห็นใบหน้า การเผชิญหน้า และเรื่องราวที่เป็นรูปธรรม” ซึ่งทำลายรูปแบบของ “ทฤษฎีทางศาสนาที่เชื่อมโยงความทุกข์ทรมานกับการลงโทษจากสวรรค์”
พระเยซูเจ้าทรงเปลี่ยนแปลงความทุกข์ของมนุษย์ โดยทำให้ความทุกข์ทรมานนั้นเป็นของพระองค์ และถวายแด่พระบิดาเพื่อเป็น “ของขวัญแห่งความรัก”
“ใครก็ตามที่รับเอาพระคัมภีร์อันศักดิ์สิทธิ์ ชำระจินตนาการทางศาสนาให้บริสุทธิ์จากทัศนคติที่ผิด เรียนรู้ที่จะปฏิบัติตามเส้นทางที่พระเยซูเจ้าทรงชี้ไว้ โดยสัมผัสความทุกข์ทรมานของมนุษย์ทางร่างกาย ด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตน ความอ่อนโยน และจริงจัง เพื่อนำเข้ามาสู่ในพระนาม ของพระเจ้าผู้ทรงบังเกิดเป็นมนุษย์ ความใกล้ชิดของการช่วยให้รอด และการสนับสนุนที่เป็นรูปธรรม”
#ยาแก้พิษการปิดตัวเองในการทดลอง (Antidote to self-closure in trials)
จากนั้น หัวข้อ "การรวมเข้าเป็นหนึ่งเดียวกัน" (inclusion) คำนี้ไม่พบในพระคัมภีร์ แต่ "เป็นการแสดงออกถึงคุณลักษณะที่โดดเด่นของรูปแบบชีวิตของพระเยซูเจ้า"
พระเจ้าทรงไม่ตัดใครออกจากความรอดของพระองค์ แต่ทรงต้อนรับทุกคนและประทาน “การรักษาที่สมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ” แก่ทุกคน
“ผ่านประสบการณ์แห่งความทุกข์ทรมานและความเจ็บป่วย เราในฐานะพระศาสนจักร ได้รับการเรียกให้เดินทางร่วมกับทุกคน ด้วยความเป็นหนึ่งเดียวกันของคริสตชนและมนุษยชาติ เปิดโอกาสในการเสวนาและความหวังในนามของความเปราะบางร่วมกัน”
ขอให้สมาชิกของคณะกรรมการพระคัมภีร์แห่งสันตะสำนัก เจาะลึกหัวข้อเรื่องความเห็นอกเห็นใจและการไม่แบ่งแยก “ด้วยความเข้มงวดและจิตวิญญาณที่เป็นพี่น้องกัน”
“พระวาจาของพระเจ้าเป็นยาแก้พิษอันทรงพลังสำหรับทุกการปิดบัง สิ่งที่จับต้องไม่ได้ และอุดมการณ์แห่งศรัทธา เมื่อเข้าใจในสิ่งที่พระจิตเจ้าได้ทรงเขียนไว้ (พระคัมภีร์) สิ่งนี้เพิ่มความหลงใหลในพระเจ้าและมนุษย์ จุดไฟแห่งความรักความเมตตา และฟื้นฟูความกระตือรือร้นในการประกาศข่าวดีอีกครั้งหนึ่ง”
#ก้าวไปกับโป๊ป 537
#chanthaburidiocese