#โลกต้องการความหวังของคริสตชน (Pope at Audience: The world needs Christian hope)
เมื่อวันพุธที่ 8 พฤษภาคม 2024 โอกาสเข้าเฝ้าทั่วไปในวันพุธ ในขณะที่พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงสอนคำสอนต่อเนื่องเรื่องความชั่วร้ายและคุณธรรม ในวันนี้ พระองค์ทรงไตร่ตรองเรื่องความหวัง ซึ่งเป็นหนึ่งในคุณธรรมทางเทววิทยา
#คุณธรรมทางเทววิทยา (Theological Virtues) มี 3 ประการ คือ
1. #ความเชื่อ (CCC 1814-1816)
2. #ความหวัง (CCC 1817-1821)
3. #ความรัก (CCC 1822-1829)
#คุณธรรมหลัก (Cardinal Virtues) มี 4 ประการ คือ
1. ความรอบคอบ (CCC 1806)
2. ความยุติธรรม (CCC 1807)
3. ความกล้าหาญ (CCC 1808)
4. ความรู้จักประมาณ (CCC 1809)
ความหวัง “คือคำตอบที่มอบให้กับหัวใจ” เมื่อไตร่ตรองคำถามเกี่ยวกับชะตากรรมสุดท้ายของเรา
“คำตอบเชิงลบ” ต่อคำถามเกี่ยวกับความหมายของชีวิต จะนำไปสู่ความโศกเศร้าโดยมุ่งเน้นไปที่คุณธรรมข้อที่สองจากสามประการนี้ “หากไม่มีความหมายในการเดินทางของชีวิต หากจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของชีวิต สิ้นสุดลงโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วเราจะถามตัวเองว่า ทำไมฉันต้องเดินแล้วจบลงด้วยความสิ้นหวัง?”
อดีตพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 เคยตรัสว่า “โดยปราศจากความหวัง ผู้คนจำนวนมากยอมแพ้ต่อชีวิต และคุณธรรมอื่น ๆ ทั้งหมดเสี่ยงที่จะพังทลายและจบลงในเถ้าถ่าน แต่โดยคำตอบเชิงบวกต่ออนาคตเท่านั้น ที่จะทำให้เราสามารถมีชีวิตอยู่ในปัจจุบันอย่างมีความหวัง”
#คุณธรรมทางเทววิทยา (A theological virtue)
คริสตชนตระหนักดีว่า ความหวังไม่ได้มาจากบุญกุศลของตนเอง แต่ “ถ้าพวกเราเชื่อในอนาคต นั่นเป็นเพราะว่าพระคริสตเจ้าสิ้นพระชนม์และกลับฟื้นคืนพระชนม์อีกครั้ง และประทานพระจิตของพระองค์แก่เรา” ความหวังจึงเป็นคุณธรรมทาง "เทววิทยา" อย่างแน่นอน เพราะ "มันไม่ได้ออกมาจากเรา... แต่เป็นของขวัญที่มาจากพระเจ้าโดยตรง"
ดังที่นักบุญเปาโลกล่าวว่า “ถ้าพระคริสตเจ้าไม่ได้กลับฟื้นคืนพระชนมชีพ ความเชื่อของคุณก็ไร้ประโยชน์และคุณยังอยู่ในบาป ถ้าคุณเชื่อในการกลับฟื้นคืนพระชนมชีพของพระคริสตเจ้า คุณจะรู้ด้วยความมั่นใจว่า ไม่มีความพ่ายแพ้และไม่มีความตายอยู่ตลอดไป แต่ถ้าคุณไม่เชื่อเรื่องการกลับฟื้นคืนพระชนมชีพของพระคริสตเจ้า ทุกอย่างก็จะว่างเปล่า แม้แต่คำเทศนาของบรรดาอัครสาวก”
บาปที่ผิดต่อความหวังในพระเจ้ามีหลายประการ รวมทั้ง “ความคิดถึงที่ไม่ดี” (bad nostalgia) ต่อความสุขในอดีต และความสิ้นหวังสำหรับบาปของเรา เมื่อเราลืมไปว่า “พระเจ้าทรงเมตตาและยิ่งใหญ่กว่าใจของเรา”
#โลกที่ต้องการความหวัง (A world in need of hope)
“โลกทุกวันนี้ต้องการคุณธรรมของคริสตชนเป็นอย่างมาก” อีกทั้งยังต้องการความอดทน ซึ่งเป็น “คุณธรรมที่ดำเนินไปอย่างใกล้ชิดกับความหวัง” บรรดาผู้ที่อดทน “เป็นผู้ถักทอความดี” ปรารถนาความสงบสุขอย่างยึดมั่นอยู่เสมอ
“แม้แต่รอบ ๆ ตัวเรา หลาย ๆ คนก็พ่ายแพ้ต่อความท้อแท้ ผู้ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากความหวังและความอดทน ก็สามารถผ่านพ้นคืนที่มืดมิดที่สุดไปได้”
“ความหวังคือคุณธรรมของผู้มีหัวใจที่ยังเยาว์วัย” ดังตัวอย่างในพันธสัญญาใหม่ของผู้เฒ่าสิเมโอนและนางอันนา ผู้พบพระเมสสิยาห์ที่ในพระวิหาร มันจะเป็นพระหรรษทานอย่างยิ่งหากในช่วงบั้นปลายของชีวิต เราสามารถประกาศร่วมกับสิเมโอนว่า “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า บัดนี้ ขอให้ผู้รับใช้ของพระองค์จากไปอย่างเป็นสุขเถิด... เพราะตาของข้าพระองค์ได้เห็นความรอดของพระองค์ เป็นแสงสว่างที่พระองค์ได้ทรงจัดเตรียมไว้สำหรับทุกคน”
ขอให้บรรดาผู้ที่มีความเชื่อ “เดินหน้าขอพระหรรษทานให้มีความหวัง ความหวังด้วยความอดทน” และเขาให้ “มองดูการเผชิญหน้าครั้งสุดท้ายเสมอ จงพึงเห็นอยู่เสมอว่า องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอยู่ใกล้เราเสมอ ความตายจะไม่มีวันมีชัยชนะเลย”
#ก้าวไปกับโป๊ป 564 #PopeatAudience
#chanthaburidiocese