#พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงประกาศปีศักดิ์สิทธิ์ยูบีลีว่าขอให้ความหวังเติมเต็มวันเวลาของเรา! (Pope proclaims Jubilee: ‘May hope fill our days!’)
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 9 พฤษภาคม 2024 โอกาสสมโภชพระเยซูเจ้าเสด็จสู่สวรรค์ (40 วันหลังวันอาทิตย์ปัสกา) ณ พระมหาวิหารนักบุญเปโตร นครรัฐวาติกัน
พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงประกาศปีศักดิ์สิทธิ์ยูบีลี ค.ศ. 2025 อย่างสง่างาม ตามพระราชกฤษฎีกา #ความหวังนี้ไม่ทำให้เราผิดหวัง (Bull of Indiction – “Spes non confundit”, โรม 5:5) ให้กับอัครสงฆ์ (Archpriests) ประจำวิหารของพระสันตะปาปาต่าง ๆ (Papal Basilicas) และตัวแทนของบิชอปทั่วโลก ก่อนเริ่มพิธีกรรมทำวัตรเย็นที่ 2 โอกาสสมโภชพระเยซูเจ้าเสด็จสู่สวรรค์ (ซึ่งพระศาสนจักรในประเทศไทยเลื่อนไปสมโภชในวันอาทิตย์ที่ 12 พฤษภาคม 2024)
#พิธีเปิดประตูศักดิ์สิทธิ์ (Solemn opening of the Holy Doors)
ในพระราชกฤษฎีกาความหวังนี้ไม่ทำให้เราผิดหวังนี้ พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงประกาศว่า ปีศักดิ์สิทธิ์ยูบีลี จะเริ่มต้นด้วยการเปิดประตูศักดิ์สิทธิ์ของพระมหาวิหารนักบุญเปโตรในวันคริสต์มาสตอนเย็น คือ วันอังคารที่ 24 ธันวาคม 2024
จากนั้นในวันอาทิตย์ที่ 29 ธันวาคม 2024 พระองค์จะทรงเปิดประตูศักดิ์สิทธิ์ของพระมหาวิหารนักบุญยอห์นแห่งลาเตรัน ซึ่งมีฐานะเป็นอาสนวิหารแห่งกรุงโรม ในวันเดียวกันนั้นเอง อาสนวิหารทุกแห่ง และอาสนวิหารร่วมทั่วโลก จะมีพิธีบูชาขอบพระคุณโดยบิชอปท้องถิ่นเพื่อเป็นเครื่องหมายของการเปิดปีศักดิ์สิทธิ์
ในวันสมโภชพระนางมารีย์พระมารดาของพระเจ้า วันพุธที่ 1 มกราคม 2025 พระองค์จะทรงเปิดประตูศักดิ์สิทธิ์ของพระมหาวิหารแม่พระแห่งกรุงโรม และของมหาวิหารนักบุญเปาโลนอกกำแพงเมือง จะมีพิธีเปิดเปิดในวันอาทิตย์ที่ 5 มกราคม 2025 ในพิธีตื่นเฝ้าสำหรับวันสมโภชพระคริสตเจ้าแสดงองค์ (Epiphany)
พระสันตะปาปาฟรังซิสเขียนว่า “ในระหว่างปีนี้ ควรพยายามทุกวิถีทางเพื่อให้ประชากรของพระเจ้า มีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ในการประกาศความหวังในพระหรรษทานของพระเจ้า และในหมายสำคัญที่พิสูจน์ถึงประสิทธิภาพของความหวังนี้”
สำหรับพระศาสนจักรท้องถิ่น หรือในสังฆมณฑลต่าง ๆ ทั่วโลก ปีศักดิ์สิทธิ์จะสิ้นสุดในวันอาทิตย์ที่ 28 ธันวาคม 2025 โดยประตูศักดิ์สิทธิ์ของพระมหาวิหารนักบุญยอห์นแห่งลาเตรัน, พระมหาวิหารแม่พระแห่งกรุงโรม และของมหาวิหารนักบุญเปาโลนอกกำแพงเมือง จะมีพิธีปิดในวันนี้
และในที่สุด ปีศักดิ์สิทธิ์ก็จะสิ้นสุดลงในกรุงโรมในโอกาสสมโภชพระคริสตแสดงองค์ ในวันอังคารที่ 6 มกราคม 2026
#เป็นโอกาสที่จะฟื้นฟูด้วยความหวัง (An opportunity to be renewed in hope)
ในบทนำของพระรากฤษฎีกา พระสันตะปาปาทรงเขียนไว้ว่า “ทุกคนรู้ดีว่าความหวังคืออะไร ในหัวใจของแต่ละคน ความหวังดำรงอยู่ตามความปรารถนา และความคาดหวังถึงสิ่งดี ๆ ที่จะมาถึง แม้ว่าเราจะไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไรก็ตาม”
ปีศักดิ์สิทธิ์อาจเป็น “โอกาสสำหรับเราที่จะได้เริ่มต้นใหม่ด้วยความหวัง การแสวงบุญเป็น “เหตุการณ์พื้นฐานของปีศักดิ์สิทธิ์ทุกครั้ง” ซึ่งแต่เดิมมักเกี่ยวข้องกับการแสวงหาความหมายของชีวิตของมนุษย์ ผลงานศิลปะชิ้นเอก และความงดงามของการสร้างสรรค์ ที่เราเห็นระหว่างการเดินทาง เป็นแรงบันดาลใจให้เราสรรเสริญและขอบคุณพระเจ้าสำหรับผลงานอันมหัศจรรย์ของพระองค์
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระองค์ได้เชิญพระศาสนจักรทั่วโลกให้เตรียมพระสงฆ์ และผู้ที่มีความเชื่อสำหรับการรับศีลอภัยบาป ซึ่งควรจะพร้อมตลอดทั้งปี
พระองค์ยังได้เชิญชวนคริสตชนจากพระศาสนจักรตะวันออก โดยเฉพาะผู้ที่ได้เป็นหนึ่งเดียวกับผู้สืบทอดของนักบุญเปโตรแล้ว ให้เข้าร่วมในการเฉลิมฉลองปีศักดิ์สิทธิ์ และให้รู้สึกเป็นที่ต้อนรับในกรุงโรม โดยสังเกตว่า มีกี่พระศาสนจักรแล้วที่ “อดทนต่อหนทางแห่งไม้กางเขนของตนเอง” ถูกบังคับให้ละทิ้งดินแดนของตนด้วยความรุนแรงและความไม่มั่นคง
#แสงแห่งความหวังของคริสตชน (The light of Christian hope)
ในระหว่างปีศักดิ์สิทธิ์ “แสงสว่างแห่งความหวังของคริสตชนจะส่องสว่างชายและหญิงทุกคน ดังข้อความแห่งความรักของพระเจ้าที่ส่งถึงทุกคน” และ “พระศาสนจักรจะเป็นพยานอย่างสัตย์ซื่อต่อข้อความนี้ในทุกส่วนของโลก”
พระองค์ทรงอ่าน “สัญญาณแห่งกาลเวลา” กล่าวถึงความปรารถนาที่จะเกิดสันติภาพในโลกที่เต็มไปด้วยความรุนแรง และความขัดแย้งมากขึ้น และการสูญเสียความปรารถนาที่จะมีบุตร โดยที่หลายประเทศเผชิญกับ “ฤดูหนาวทางประชากรศาสตร์” พระองค์เรียกร้องให้มีพันธสัญญาทางสังคมเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมความหวังเหล่านี้
โดยเฉพาะต่อนักโทษ โดยทรงระลึกถึงประเพณีการนิรโทษกรรม หรือการอภัยโทษในช่วงปีศักดิ์สิทธิ์ พระองค์หวังที่จะเปิดประตูศักดิ์สิทธิ์ในเรือนจำเป็นการส่วนตัว “เพื่อเป็นสัญญาณเชิญชวนนักโทษให้มองไปสู่อนาคตด้วยความหวัง และความรู้สึกใหม่ของ ความมั่นใจ" และเรียกร้องให้ผู้ต้องขังได้รับการปฏิบัติตามสิทธิและศักดิ์ศรี พร้อมทั้งเรียกร้องให้ยกเลิกโทษประหารชีวิตอีกครั้ง
พระองค์ทรงเรียกร้องให้เสนอความหวังแก่ผู้ป่วย คนหนุ่มสาว และผู้สูงอายุ โดยเฉพาะอย่างยิ่งปู่ย่าตายาย ผู้อพยพ และคนยากจน กล่าวว่า “ผลไม้ในโลกมีไว้เพื่อทุกคน” และทรงสนับสนุนให้ทุกคนมาช่วยเหลือคนยากจน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระองค์ทรงเรียกร้องให้ประเทศที่ร่ำรวยกว่าให้ยกหนี้ของประเทศต่าง ๆ ที่ไม่สามารถชำระหนี้ได้
นอกจากนั้นแล้ว ในปี ค.ศ. 2025 เป็นวันครบรอบ 1,700 ปี ของการทำคริสตศาสนจักรสัมพันธ์เป็นครั้งแรก ขอให้มีการแสดงออกถึงการก้าวเดินไปด้วยกัน และเพิ่มความพยายามอีกครั้งเพื่อส่งเสริมเอกภาพของคริสตชน เป็นพิเศษเพื่อให้มีความคืบหน้าในการฉลองปัสการ่วมกัน โดยหวังว่าในปี 2025 คริสตชนทุกคนจะเฉลิมฉลองพระธรรมล้ำลึกปัสกาในวันเดียวกัน
#ปีศักดิ์สิทธิ์เป็นเครื่องหมายแห่งความหวังA Holy Year marked by hope
ความหวังของคริสตชนมีรากฐานมาจากการสิ้นพระชนม์และการฟื้นคืนพระชนมชีพของพระคริสตเจ้าสำหรับมนุษย์แต่ละคน ชี้ไปที่จุดหมายปลายทางสุดท้ายของเรา ความสุขนิรันดรกับพระเจ้าในสวรรค์ เราได้รับความรอดโดยพระเมตตาของพระเจ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในของขวัญแห่งพระคุณการุณย์ การสารภาพบาปชำระล้างบาปของเรา ซึ่งเงื่อนไขในการรับพระคุณการุณย์นี้ จะทำการเผยแพร่ในเร็ว ๆ นี้
"ปีศักดิ์สิทธิ์ที่จะมาถึง จะเป็นปีศักดิ์สิทธิ์ที่ทำเครื่องหมายไว้ด้วยความหวังที่ไม่จางหาย คือความหวังของเราในพระเจ้า" และนั่นอาจช่วยให้เราฟื้นฟู “ความไว้วางใจอย่างมั่นใจที่เราเรียกร้องในพระศาสนจักรและในสังคม ในความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และในพันธกิจของเราในการส่งเสริมศักดิ์ศรีของทุกคน และความเคารพต่อพระหรรษทานแห่งการสร้างสรรค์จากพระผู้เป็นเจ้า”
พระราชกฤษฎีกาความหวังนี้ไม่ทำให้เราผิดหวัง จบลงด้วยการที่พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงกล่าวว่า “ขอให้เราถูกดึงดูดเข้าสู่ความหวังนี้!” ขอให้คริสตชนดำเนินชีวิตตามความเชื่อของพวกเขา เพื่อเป็นพยานและเชิญชวนทุกคนให้ “มีความหวังในพระเจ้า”
“ขอให้พลังแห่งความหวังเติมเต็มวันเวลาของเรา ในขณะที่เรารอคอยการเสด็จมาของพระเจ้าพระเยซูคริสตเจ้า ผู้สมควรได้รับการสรรเสริญ และพระสิริรุ่งโรจน์จงมีแด่พระองค์ บัดนี้และตลอดไป”
#ก้าวไปกับโป๊ป 566 #Jubilee #Jubilee2025 #ปีศักดิ์สิทธิ์ #ปียูบีลี #ปีศักดิ์สิทธิ์2025 #JubileeofHope #ปีศักดิ์สิทธิ์แห่งความหวัง #kamsonchanthaburi #catechesisofchanthaburi #คำสอนจันท์
#สังฆมณฑลจันทบุรี #chanthaburidiocese