#ความรักเมตตาเป็นงานของพระจิตเจ้าในตัวเรา (Pope at Audience: Charity is the work of the Holy Spirit in us)
เมื่อวันพุธที่ 15 พฤษภาคม 2024 พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงเทศน์สอนเรื่องคุณธรรมทางเทววิทยาประการที่สาม ต่อจากสัปดาห์ที่แล้ว คือ "ความรักเมตตา" ( #charity ) ในการเข้าเฝ้าทั่วไปประจำสัปดาห์ โดยตรัสว่า คุณธรรมทางเทววิทยาประการนี้ "มาจากพระเจ้าและมุ่งตรงสู่พระเจ้า และทำให้เราสามารถรักพระเจ้า... และรักเพื่อนพี่น้องของเราดังที่พระเจ้าทรงรักพวกเขา"
ดังคำสอนของนักบุญเปาโลที่กล่าวว่า “ดังนั้น ความเชื่อ ความหวัง และความรัก ทั้งสามสิ่งนี้จึงดำรงอยู่ แต่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือความรัก” ถ้อยคำเหล่านี้เป็นจดหมายถึงคริสตชนที่เมืองโครินธ์ ผู้ซึ่งทนทุกข์จากความแตกแยกและการวิวาทกัน แม้แต่ในพิธีบูชาขอบพระคุณก็ตาม
#คุณธรรมแห่งความรักเมตตามาจากพระเจ้า (The virtue of charity comes from God)
“ใครจะรู้ แต่บางทีในชุมชนเมืองโครินธ์ ไม่มีใครคิดว่าพวกเขาทำบาป” หากเป็นเช่นนั้น พวกเขาอาจพบว่า การกล่าวโทษจากนักบุญเปาโลเกี่ยวกับความขัดแย้งของพวกเขานั้น “เป็นเรื่องที่ไม่อาจเข้าใจได้”
แม้ว่าพวกเขาอาจจะจินตนาการว่า พวกเขาเป็นคนดีและมีความรัก แต่นักบุญเปาโลก็ท้าทายพวกเขาในเรื่องความรักเมตตาที่แท้จริงซึ่งมาจากพระเจ้า “นักบุญเปาโลกังวลว่า ในเมืองโครินธ์ เช่นเดียวกับพวกเราในทุกวันนี้ มีความสับสน และจริง ๆ แล้ว ไม่มีร่องรอยของคุณธรรมทางเทววิทยา ซึ่งมาหาเราจากพระเจ้าเท่านั้น”
#ความรักที่ยิ่งใหญ่กว่า (‘A greater love’)
เช่นเดียวกับมนุษย์ทุกคน คริสตชนมี “ความรักทุกรูปแบบในโลก” ได้ ไม่ว่าจะเป็นความรักแบบโรแมนติก ความรักต่อเพื่อนฝูง ต่อประเทศ และต่อมนุษยชาติ
“แต่มีความรักที่ยิ่งใหญ่กว่า ซึ่งมาจากพระเจ้าและมุ่งตรงสู่พระเจ้า และทำให้เราสามารถรักพระเจ้า… และรักเพื่อนบ้านของเราเหมือนที่พระเจ้ารัก”
นี่คือคุณธรรมแห่งความรักเมตตา ซึ่งไม่เพียงทำให้เรารักเพื่อนและครอบครัวของเราเท่านั้น แต่ยังรักแม้กระทั่งคนเหล่านั้นที่ยากที่จะรักด้วย “นี่คือ 'เทววิทยา'” เพราะ “มันมาจากพระเจ้า มันเป็นงานของพระจิตเจ้าในตัวเรา”
#คุณธรรมที่ยากจะปฏิบัติ (A difficult virtue to practice)
เมื่อนึกถึงคำเทศนาบนภูเขา พระเยซูเจ้าทรงเปิดเผยความรัก “ในฐานะคำสอนที่ใช้ชื่อว่าความรัก” เป็นคุณธรรมที่ปฏิบัติได้ยาก แม้แต่สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ “หากไม่มีใครดำเนินชีวิตในพระเจ้า”
แต่นอกเหนือจากความรักตามปกติของหัวใจมนุษย์แล้ว “ความรักแบบคริสตชนยอมรับสิ่งที่ไม่น่ารัก การให้อภัย และอวยพรให้แก่ผู้ที่สาปแช่ง มันเป็นความรักที่เร่าร้อนจนดูเหมือนแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย แต่มันก็เป็นสิ่งเดียวที่จะยังคงอยู่สำหรับพวกเรา”
ในช่วงเวลาสุดท้ายของเรา “เราจะไม่ถูกตัดสินด้วยความรักแบบทั่วไป แต่ถูกตัดสินด้วยความรักที่มีคุณค่า” ตามพระวาจาของพระเยซูเจ้าที่ว่า “เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ทุกสิ่งที่ท่านได้ทำต่อพี่น้องผู้ต้อยต่ำ ก็เท่ากับทำต่อเราเอง”
#ก้าวไปกับโป๊ป 569 #PopeatAudience
#chanthaburidiocese