หนทางแห่งความเป็นหนึ่งเดียวกัน
พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงเป็นประธานในการสวดทำวัตรเย็นวันฉลองนักบุญเปาโลกลับใจ (25 มกราคม) และปิด สัปดาห์แห่งการสวดภาวนาเพื่อความเป็นหนึ่งเดียวกันของคริสตชน ในวันอังคารที่ 25 มกราคม ค.ศ. 2022 ณ พระมหาวิหารนักบุญเปาโลนอกกำแพงเมือง กรุงโรม ประเทศอิตาลี ร่วมกับตัวแทนของคริสตจักรคอนแสตนติโนเปิ้ล (ตุรกี), อาร์คบิชอปแคนเทอเบอรี่ (อังกฤษ), และคริสตจักรอื่น ๆ
พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงเทศน์สอนเกี่ยวกับหัวข้อของการสวดภาวนาเพื่อความเป็นหนึ่งเดียวในปีนี้ โดยนำมาจากพระวรสารตอนที่บรรดาโหราจารย์เดินทางมาที่เมืองเบธเลเฮมเพื่อนมัสการพระกุมารเยซูเจ้าที่ว่า “เราเห็นดาวทางทิศตะวันออกและเรามานมัสการพระองค์ ” (ดู มธ 2:1-12) โดยแบ่งออกเป็น 3 หัวข้อ คือ 1) เริ่มต้นที่ตะวันออก 2) ที่กรุงเยรูซาเล็ม และ 3) และที่เมืองเบธเลเฮม
เริ่มต้นที่ตะวันออก (Begun in the East)
บรรดาโหราจารย์เห็นดวงดาวทางทิศตะวันออกเป็นทิศที่ดวงอาทิตย์ขึ้น พวกเขาไม่หยุดเพียงแค่ความรู้และธรรมประเพณีที่เขามีอยู่เท่านั้น แต่แสวงหาบางสิ่งอย่างเพิ่มเติม เช่นเดียวกัน #บรรดาคริสตชนควรติดตามดวงดาวที่ชื่อว่าพระเยซูเจ้า และการเชื้อเชิญของพระองค์สู่ความเป็นหนึ่งเดียวกัน โดยไม่ต้องคิดคำนึงว่าหนทางนี้จะยาวไกลขนาดไหนและจะต้องเหน็ดเหนื่อยเพียงไร
ในยุคของเรา ทิศตะวันออกยังหมายถึงบรรดาคริสตชนที่อาศัยอยู่ในที่ต่าง ๆ ที่ถูกทำร้ายด้วยสงครามและความรุนแรง เป็นต้นในตะวันออกกลาง บรรดามรณสักขีในพื้นที่เหล่านั้นเสียสละชีวิตของตนเองเพื่อเป็นหนทางแห่งความเป็นหนึ่งเดียว
ที่กรุงเยรูซาเล็ม (Arrival in Jerusalem)
เมื่อบรรดาโหราจารย์เดินทางมาถึงกรุงเยรูซาเล็มแสงของดวงดาวได้หายไป เมืองที่ศักดิ์สิทธิ์ (กรุงเยรูซาเล็ม) แต่ผู้คนเต็มไปด้วยความวุ่นวาย โกลาหน ได้ยินเรื่องการประสูติมาของพระเจ้าและกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ แต่พวกเขาไม่สนใจ ตรงกันข้าม กษัตริย์เฮโรดมหาราชต้องการกำจัดกษัตริย์องค์ใหม่ที่บังเกิดมา เพราะความหวงแหนแก่อำนาจของตน ซึ่งไม่ต่างอะไรกับความมืดมนที่ปกคลุมโลกอยู่
ในการเดินทางของพวกเราเพื่อมุ่งไปสู่ความสมบูรณ์แห่งความเป็นหนึ่งเดียวกันของบรรดาคริสตชน เราไม่ควรหยุดที่ความความสับสนหรือมีความหวาดกลัวที่จะทำสิ่งใหม่ ๆ ที่บางครั้งอาจไม่เหมือนกับที่เราได้เคยปฏิบัติมาด้วยความเคยชินตามประเพณีหรือนิสัยของเรา (ในแต่ละนิกาย) แต่ให้เราไว้วางใจและก้าวเดินทางไปด้วยกัน
บรรดาโหราจารย์ได้กล้าหาญที่จะเผชิญหน้ากับผู้คนในกรุงเยรูซาเล็มและกษัตริย์เฮโรดผู้มีชื่อเสียงในทางที่ไม่ดี แต่ก็ได้ทำให้พวกเขาได้ทราบว่ากษัตริย์องค์ใหม่ที่บังเกิดมาอยู่ที่เมืองเบธเลเฮม เช่นเดียวกับพวกเรา (คริสตชน) ในยุคปัจจุบัน อาศัยการไตร่ตรองและดำเนินชีวิตตามพระคัมภีร์ด้วยกัน นำเราเข้าไปใกล้ชิดองค์พระเยซูคริสตเจ้ามากยิ่งขึ้นด้วยพระวาจาของพระองค์ และใกล้ชิดบรรดาพี่น้องชายหญิงของเราด้วย
ที่เมืองเบธเลเฮม (Reaching Bethlehem)
ในที่สุด บรรดาโหราจารย์ได้เดินทางมาถึงเมืองเบธเลเฮม พวกเขาได้คุกเข่าลงและนมัสการพระกุมารเยซูเจ้า เป็นการทำนายล่วงหน้าถึงบรรดาศิษย์ของพระเยซูเจ้าที่จะคุกเข่าลงนมัสการพระองค์ก่อนที่พระเยซูเจ้าจะทรงกลับคืนพระชนมชีพบนภูเขาในแคว้นกาลิลี เหตุการณ์ทั้งสองนี้เป็นเครื่องหมายสำหรับคริสตชนในยุคของเราผู้ซึ่งแสวงหาความเป็นหนึ่งเดียวกันที่สมบูรณ์ โดยจะประสบความสำเร็จได้หากเรา #นมัสการพระเจ้าร่วมกัน
อย่างไรก็ตาม การนมัสการพระเจ้าต้องการความสุภาพ (เช่นเดียวกับการคุกเข่าลง) เอาความเสแสร้งของเราออกไปเพื่อที่จะทำให้องค์พระผู้เป็นเจ้าเท่านั้นที่เป็นศูนย์กลางของทุกสิ่ง ความสุภาพเท่านั้นที่จะทำให้เรานมัสการพระเจ้าในบ้านหลังเดียวกัน รอบ ๆ พระแท่นบูชาเดียวกัน
ของขวัญของบรรดาโหราจารย์ (The gifts of the Magi)
ของขวัญ 3 ชิ้นเหล่านั้น ได้เป็นสัญลักษณ์ที่พระเจ้าปรารถนาต้องการจะได้รับจากพวกเรา
1 ทองคำ (Gold) พระเจ้าเท่านั้นที่เป็นอันดับหนึ่งในชีวิตของเรา
2 กำยาน (Frankincense) ความสำคัญของการสวดภาวนา
3 มดยอบ (Myrrh) การถวายเกียรติแด่พระศพของพระเยซูคริสตเจ้าหลังจากถูกเชิญลงมาจากไม้กางเขน โดยให้เราได้พิจารณาถึงรอยแผลของพระองค์กับบาดแผลของคนยากจน
คริสตชนควรเลียนแบบบรรดาโหราจารย์ ผู้ที่กลับไปยังบ้านเกิดเมืองนอนของพวกเขาบนหนทางใหม่ เช่นเดียวกับ นักบุญเปาโลก่อนที่จะพบกับพระเยซูคริสตเจ้า (ก่อนที่จะกลับใจ) ด้วยการเปลี่ยนหนทางและนิสัยเดิม ๆ ของเรา เพื่อที่จะเดินอยู่บนหนทางที่พระเจ้าได้ทรงแนะนำให้กับเรา นั่นก็คือ หนทางแห่งความสุภาพถ่อมตน หนทางแห่งการเป็นพี่น้องกัน และ #หนทางแห่งการนมัสการร่วมกัน
ขอพระเจ้าได้ช่วยเหลือเราในการเปลี่ยนแปลงหนทางการดำเนินชีวิต ให้เราได้กลับใจ ทำตามพระประสงค์ของพระองค์ ก้าวเดินไปข้างหน้าด้วยกัน และติดตามพระองค์ อาศัยพระจิตเจ้าคอยช่วยเหลือเพื่อที่จะทำให้เราเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างแท้จริง