พระคาร์ดินัลโบขอร้องให้รักษาประเทศเมียนมาร์ด้วยความเมตตา
(Card. Bo urges healing of Myanmar with mercy)
เมื่อวันศุกร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2022 โอกาสวันผู้ป่วยสากล พระคาร์ดินัลชาร์ล หม่อง โบ แห่งสาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า (Cardinal Charles Maung Bo of Myanmar) ขอร้องให้บรรดาคริสตชนมีความเมตตาและเป็นผู้ดูแลสุขภาพที่ดี ณ วิหารพระนางมารีย์ เมืองยองเลบิน (Nyaunglebin) ประเทศเมียนมาร์ อยู่ห่างจากกรุงย่างกุ้งประมาณ 155 กม.
ในฐานะที่ท่านเป็นผู้นำพระศาสนจักรคาทอลิกของประเทศเมียนมาร์ ได้ทรงเตือนให้บรรดาคริสตชนได้เลียนแบบความรักความเมตตาและความระทมทุกข์ของพระนางมารีย์ กล่าวว่า บาดแผลแห่งความเกลียดชังต้องได้รับการเยียวยาในประเทศนี้ เพราะความเมตตาเป็นข่าวสารของพระเยซูเจ้าและพระแม่มารีย์ จงยืดหยัดเคียงข้างบุคคลที่ทุกข์ทรมานบนหนทางแห่งความรัก ดังหัวข้อของวันผู้ป่วยสากลปีนี้ที่ว่า #จงเป็นผู้เมตตากรุณาดังที่พระบิดาของท่านทรงพระเมตตากรุณาเถิด (ลก6:36) #การยืนเคียงข้างผู้ที่ทุกข์ทรมานด้วยกิจเมตตาสงเคราะห์ ”
ความแตกแยกของมนุษย์ (Human brokenness)
ประชาชนชาวเมียนมาร์กำลังเผชิญกับวิกฤตทางการเมือง สิทธิมนุษยชน และมนุษยธรรมอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ความรุนแรงได้เพิ่มขึ้นอย่างมากนับตั้งแต่การทำรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2021 ท่ามกลางการระบาดใหญ่ของโควิด-19 วิกฤตการณ์นี้ได้ขยายวงกว้างมากขึ้น เมื่อกองทัพได้รื้อฟื้นความขัดแย้งที่มีอยู่เดิมกับกลุ่มกบฏติดอาวุธและกลุ่มต่อต้านพลเรือน องค์การสหประชาชาติประมาณการว่า ประชาชน 14.4 ล้านคนจาก 54.8 ล้านคนของประเทศต้องการความช่วยเหลือ โดย 320,000 คนต้องอพยพย้ายถิ่นภายในประเทศ
“ให้เราได้สอนประเทศนี้ด้วยการรักษา ไม่ใช่การสร้างบาดแผลมากขึ้น ด้วยการโยนอาวุธที่ทำลายซึ่งกันและกันทิ้งไป และสวมกอดกันและกันด้วยวิธีการต่าง ๆ สำหรับการเยียวยารักษา ในวันนี้ ให้เราได้ร่วมมือกันปกป้องประเทศของเรา เผชิญหน้ากับความท้าทายต่าง ๆ เช่น น้ำตา การแพร่ระบาด การลี้ภัย และความแตกแยกของมนุษย์”
แม่พระระทมทุกข์ (Mother of Sorrows)
“แทบเชิงไม้กางเขน พระนางมารีย์ได้โอบกอดศีรษะและพระวรกายพระบุตรเยซูเจ้าบนหน้าตักของพระนาง โปรดได้ทรงโอบประคองประเทศเมียนมาร์ไว้ในอ้อมแขนของพระนาง โปรดทรงเยียวยารักษาพวกเรา ขอให้ความเมตตาของพระนางได้นำพระผู้ไถ่มาสู่โลกของเรา และนำสันติภาพกลับคืนมาสู่ประเทศของเราอีกครั้งหนึ่ง แม้แต่พระสันตะปาปาฟรังซิสเองก็ตามได้เชิญชวนชาวโลกให้สวดภาวนาให้กับประเทศเมียนมาร์สิบกว่าครั้ง พระองค์เองก็ได้คุกเข่าลงบนถนนของประเทศเมียนมาร์ สำหรับการเยียวยารักษาบาดแผลของประเทศนี้”
“เราต้องการพระแม่แห่งความเมตตาสำหรับประเทศเมียนมาร์ในวันนี้ ความเจ็บปวดของเรากับความเจ็บปวดของพระนาง พระนางทรงรับรู้ความทุกข์ทรมานของเรา ความแตกแยก ความกลัว และความหวั่นวิตก แม่พระระทมทุกข์ทรงทราบดีถึงความเจ็บปวดนับหมื่นของบรรดาแม่ที่ได้สูญลูกชายและลูกสาวของพวกเขาจากความรุนแรงในประเทศของเรา ผู้ที่อยู่ในความหวาดกลัว ตื่นตระหนัก และอพยพ เช่นเดียวกับประสบการณ์ของพระนางเมื่อครั้งที่พระบุตรทรงเกิดมาและต้องอพยพไปอยู่ที่ประเทศอียิปต์ในฐานะผู้ลี้ภัย
จงมีความเมตตา (Be merciful)
เราคือผู้ดูแลสุขภาพที่ดีของกันและกัน ให้เราได้กระทำตามที่พระนางมารีย์ได้แนะนำเรา คือ จงมีความเมตตา เช่นเดียวกับสมาชิกคณะธรรมทูตแห่งเมตตาธรรม (Missionaries of Charity) ของซิสเตอร์เทเรซาแห่งกัลกัตตาหลายร้อยคนที่ออกไปทำงานทั่วประเทศ เพื่อช่วยเหลือ สัมผัส และเยียวยารักษาผู้ที่เดือดร้อนในที่อันตรายต่าง ๆ แบบบูรณาการทั้งด้านด้านจิตใจ จิตวิทยา และร่างกาย แม้กระทั่งคนที่เราคิดว่าเขาเป็นศัตรูหรือปีศาจ เราเยียวยารักษาทุกคนด้วยความเมตตา
สัมผัสแห่งการรักษา (Healing touch)
พระคาร์ดินัลโบได้ชื่นชมเจ้าหน้าที่สาธารณสุขว่าเป็น #นักบุญข้างบ้าน (the ‘next door’ saints) ตามที่พระสันตะปาปาฟรังซิสได้เรียกพวกเขาว่า “เป็นพระแม่มารีย์ที่มาในรูปแบบของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข พวกเขาทำการรักษาโดยการปรากฏตัวที่สัมผัสได้ของพวกเขา” เช่นเดียวกับแม่ชีเทเรซาแห่งกัลกัตตาที่ไม่เคยใช้ถุงมือในการสัมผัสบาดแผลของพระเยซูเจ้าในตัวผู้ป่วย เช่นเดียวกับคำเรียกร้องของพระสันตะปาปาฟรังซิสที่ต้องการจะเปลี่ยนวัดต่าง ๆ ให้เป็น “บ้านแห่งความเมตตา” และ “โรงพยาบาลสนาม”
พระนางมารีย์ได้ทรงขอให้พระเยซูเจ้าช่วยเหลือเจ้าภาพในงานมงคลสมรสที่เมืองคานาแคว้นกาลิลี ... จากน้ำที่ถูกเปลี่ยนให้เป็นเหล้าองุ่น ฉันใดก็ฉันนั้น ในวันนี้ ให้เราได้วิงวอนขอพระนางมารีย์ได้ทรงช่วยเหลือเรา โปรดเปลี่ยนน้ำตาแห่งความเศร้าโศกให้กลายเป็นน้ำตาแห่งความชื่นชมยินดีด้วยเทอญ ...