เทววิทยาแห่งการถวายมนุษยชาติแด่ดวงหทัยนิรมลของพระแม่มารีย์ (Theological significance of Act of Consecration)
บาทหลวงสเทฟาโน่ เชชชิน คณะฟรังซิสกัน (Fr. Stefano Cecchin, OFM) ประธานสถาบันการศึกษานานาชาติเรื่องพระแม่มารีย์ของสันตะสำนัก ได้อธิบายเทววิทยาเกี่ยวกับการถวายประเทศรัสเซียและยูเครนของพระสันตะปาปาฟรังซิส เมื่อวันศุกร์ที่ 25 มีนาคม ค.ศ. 2022 ที่ผ่านมาว่า
“สันติภาพที่แท้จริงเริ่มต้นจากพระเป็นเจ้าเสมอ ดังนั้น จึงสอดคล้องกับดวงหทัยของพระนางมารีย์ ซึ่งพระนางทรงรักพระเป็นเจ้ามากที่สุด”
เช่นเดียวกับเด็ก ๆ ที่วิ่งเข้าไปหาแม่ของพวกเขา มนุษยชาติก็เช่นเดียวกันได้มอบความไว้วางใจให้กับพระนางมารีย์เป็นดังมารดาของพวกเขา หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าเป็น “ราชินีแห่งสันติภาพ”
ท่ามกลางมรสุมของสงครามระหว่างประเทศรัสเซียและยูเครนที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เราได้ถวายอนาคตของครอบครัวมนุษยชาติทั้งหมดแด่พระแม่มารีย์ ซึ่งเป็นความต้องการและความหวังของมนุษย์ทุกคน ในความกระตือรือร้นและความหวังของโลก
พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงเป็นผู้นำภาวนาเพื่อการคืนดี นำอธิษฐานบทถวายมนุษยชาติแด่ดวงหทัยนิรมลของพระนางมารีย์ พร้อมกับการรับศีลอภัยบาปส่วนพระองค์ ณ พระมหาวิหารนักบุญเปโตร นครรัฐวาติกัน ประเทศอิตาลี พร้อมกับบิชอปและบาทหลวงทั่วโลก รวมถึงที่สักการะสถานพระแม่มารีย์ เมืองฟาติมา ประเทศโปรตุเกส โดยมีพระคาร์ดินัลคอนราด ครายิวสกี้ (Card. Konrad Krajewski) เป็นผู้แทนของพระสันตะปาปาในการประกอบพิธีกรรมดังกล่าวเช่นเดียวกัน
ความสอดคล้องกับดวงหทัยนิรมลของพระนางมารีย์ (Conforming to the heart of Mary)
พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงตัดสินใจถวายประเทศรัสเซียและยูเครน รวมถึงมนุษยชาติทั้งหมดแด่ดวงหทัยนิรมลของพระแม่มารีย์ เป็นการกระทำที่อยู่ในธรรมประเพณีของพระศาสนจักรที่เคยกระทำมาก่อนแล้ว พระแม่มารีย์เป็นบุคคลที่เราสามารถมอบความไว้วางใจแด่พระนางในช่วงเวลาแห่งความทุกข์ยากเสมอ เช่นเดียวกันกับเมื่อมีสงครามเกิดขึ้นในครอบครัวหนึ่ง สมาชิกในครอบครัวก็จะวิงวอนขอพระนางมารีย์เพื่อสันติสุขในครอบครัวของเขา
เพื่อที่จะทำให้เกิดสันติภาพ เราจะต้องมีจิตใจที่ละม้ายคล้ายคลึงกับดวงหทัยของพระแม่มารีย์ คือ ดวงหทัยที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักอย่างมากที่สุด ในการพบปะคณาจารย์และนักศึกษาด้านเทววิทยาพระแม่มารีย์ ณ กรุงโรม ประเทศอิตาลี พระสันตะปาปาทรงย้ำเตือนเราให้มองเห็นเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในยุคของเรา เช่นเดียวกับที่ได้เกิดขึ้นในช่วงเวลาของพระนางมารีย์ในอดีต
ความคิดเห็นของบาทหลวงสเทฟาโน่ เชชชิน ต่อการตัดสินใจของพระสันตะปาปาในครั้งนี้? (Q: Father Cecchin, as a Mariologist, how did you welcome the Pope's decision?)
จากการประชุมเรื่องการถวายประเทศโปรตุเกสแด่แม่พระปฏิสนธินิรมลในปี ค.ศ. 1931 ในการศึกษาเอกสารและข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับพระศาสนจักรและประเทศโปรตุเกส ได้พบว่า การประจักษ์มาของพระนางมารีย์ที่เมืองฟาติมา ประเทศโปรตุเกส ได้เกิดขึ้นในช่วงเวลาแห่งความยุ่งยากและทุกข์ระทม ทั้งของประเทศโปรตุเกสเอง และประเทศอื่น ๆ ในทวีปยุโรป
เมื่อปี ค.ศ. 1917 ได้มีการปฏิวัติเกิดขึ้นในประเทศรัสเซีย และสงครามโลกครั้งที่ 1 พระเจ้าได้ทรงปกป้องเราให้รอดพ้นอาศัยความช่วยเหลือของพระนางมารีย์ ที่ประจักษ์มาที่เมืองฟาติมา และขอร้องให้ถวายประเทศรัสเซียแด่พระนาง หากเราได้พิจารณาถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ได้เกิดขึ้น (Marian times) อย่างละเอียด ดังที่พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงไตร่ตรองถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน พระองค์ได้ทรงพบความสอดคล้องตรงกันกับเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในอดีต
และนี่เอง เป็นสาเหตุที่ทำให้พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงตัดสินใจรื้อฟื้นพิธีถวายประเทศรัสเซียและมนุษยชาติ แด่ดวงหทัยนิรมลของพระนางมารีย์อีกครั้งหนึ่ง
พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงเปรียบเทียบบ้านส่วนรวม (Common House) ว่าเป็นเหมือนสตรี (Woman) เช่นเดียวกับพระนางมารีย์ พระศาสนจักรก็เปรียบได้กับการเป็นทั้งพระแม่มารีย์และเป็นมารดา
เรารู้ดีว่าเมื่อบรรดาลูก ๆ ทะเลาะเบาะแว้งกัน หรือมีปัญหาเกิดขึ้น “แม่...คือคนที่จะนำความสุขคืนมาให้กับครอบครัวเสมอ” บทภาวนาเพื่อถวายประเทศรัสเซีย ประเทศยูเครน และมนุษยชาตินี้ พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงประพันธ์ขึ้นมาจากการดลใจของพระองค์ท่านเอง
การถวายประเทศรัสเซียและยูเครนในครั้งนี้มีความหมายพิเศษอย่างไรทางด้านเทววิทยา (Q: What is the theological significance of this consecration?)
ดวงหทัยของพระนางมารีย์ เช่นเดียวกับพระหทัยของพระเป็นเจ้า พระนางมารีย์เป็นผู้ที่ให้กำเนิดพระบุตรของพระบิดาบนโลกใบนี้ ดังที่นักบุญพระสันตะปาปายอห์นปอลที่ 2 และเปาโลที่ 6 ได้สอนเราว่า พระบุตร (พระเยซูเจ้า) ได้รับความรักอย่างมากมายจากทั้งพระบิดาและพระแม่มารีย์
พระแม่มารีย์ทรงเป็นผู้เปิดหนทางแห่งความรักสำหรับเรา ซึ่งสอดคล้องกับความรักอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้า มากกว่าสิ่งสร้างใด ๆ เราด้วยเช่นเดียวกันถูกเรียกมาให้มีหัวใจเช่นเดียวกับดวงหทัยของพระแม่มารีย์ เพื่อที่จะสามารถรักพระเยซูเจ้าที่อยู่ในบุคคลอื่น เราจึงมีความเชื่อมั่นว่า สันติภาพที่แท้จริงไม่ได้มาจากสหประชาชาติ จากอาวุธ จากการปกครอง แต่มาจากพระเจ้าเท่านั้น ดังนั้น ถ้าเราต้องการสร้างสันติภาพ เราต้องทำให้หัวใจของเราละม้ายคล้ายคลึงกับหัวใจของบุคคลที่รักพระเจ้า รักพระศาสนจักร และรักพี่น้องชายหญิงของเรา
บุคคลผู้นั้นก็คือ “พระแม่มารีย์” และดวงหทัยอันนิรมลของพระนาง ดวงหทัยของพระนางเต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก มอบความรักทั้งหมดให้กับพวกเราทุกคน ดังนั้น ถ้าเราต้องการสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้น เราต้องเริ่มต้นจากการทำให้หัวใจของเราละม้ายคล้ายคลึงกับดวงหทัยนิรมลของพระนางนั่นเอง
ทำไมพระสันตะปาปาฟรังซิสต้องเชิญชวนบิชอปและบาทหลวงทั่วทั้งโลกเพื่อร่วมในการถวายมนุษยชาติในครั้งนี้? (Q: Pope Francis has invited the bishops of the world and their priests to join him in this Act of Consecration and entrustment. Why?)
แนวความคิดนี้ตอกย้ำเรื่องการเป็นพระศาสนจักรที่กำลังก้าวเดินไปด้วยกัน (A Synodal Church) บรรดาบิชอป บาทหลวง ตลอดจนคริสตชนทุกคน ถูกเชื้อเชิญให้เป็นหนึ่งเดียวกัน ในการก้าวเดินไปด้วยกัน พร้อมกับพระศาสนจักร และในพระศาสนจักร
พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงเรียกพระศาสนจักรว่า “บ้านส่วนรวม “ (Common Home) เราไม่ได้วิงวอนขอความรอดพ้นสำหรับตัวของเราแต่ละคนเท่านั้น แต่เพื่อความรอดพ้นของโลกใบนี้ทั้งหมดด้วย ดังนั้น เพื่อที่จะทำให้สันติภาพเกิดขึ้นในโลก ไม่ใช่เพราะคน ๆ เดียวอธิษฐานภาวนาเท่านั้น แต่ต้องมาจากทุกคนที่ช่วยกันอย่างจริงจัง
#ทำไมพระสันตะปาปาฟรังซิสจะต้องทำพิธีถวายมนุษยชาติอีกครั้งหลังจากพระสันตะปาปาองค์ก่อนทรงกระทำไปแล้ว (Q: How can we place the Pope's choice in the context of this tradition?)
ตลอดประวัติศาสตร์ของพระศาสนจักร พระนางมารีย์คือผู้ที่เป็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นหนึ่งเดียวกันของพระศาสนจักร ผู้ที่ปกป้องและดูแลพระศาสนจักร โดยเฉพาะในช่วงระยเวลาแห่งความยุ่งยาก พระศาสนจักรวิงวอนขอต่อพระนางเพื่อประทานทางออกเพื่อแก้ปัญหา อาศัยการประทานปรีชาญาณของพระจิตเจ้าให้กับพระศาสนจักร ถูกย้ำเตือนในข้อคำสอนจากสังคายนาวาติกันที่ 2 ว่า “พระแม่มารีย์คือสัญลักษณ์แห่งความหวังอย่างแท้จริง” พระสันตะปาปาฟรังซิสจึงทรงตอกย้ำข้อคำสอนนี้ผ่านทางพิธีกรรมที่เกิดขึ้นในครั้งนี้
ทำไมพระสันตะปาปาฟรังซิสจึงแต่งตั้งพระคาร์ดินัลคอนราด ครายิวสกี้ ให้ทำหน้าที่แทนพระองค์ที่ฟาติมา (Q: Why did the Pope want one of his envoys, Cardinal Krajewski, to make the same gesture at the Shrine of Fatima?)
เมืองฟาติมา ประเทศโปรตุเกส เป็นสัญลักษณ์ของการประจักษ์มาของพระนางมารีย์ ในปี ค.ศ. 1649 กษัตริย์ยอห์นที่ 6 แห่งประเทศโปรตุเกส เป็นบุคคลแรกที่ได้ถวายพระองค์เองแด่แม่พระปฏิสนธินิรมล และได้ทรงถวายมงกุฎของพระองค์เองแด่พระแม่มารีย์ จากนั้นเป็นต้นมา กษัตริย์ของประเทศโปรตุเกส ก็ไม่ได้สวมมงกุฎอีกเลย
ดังนั้น เมืองฟาติมา จึงเป็นเครื่องหมายของการวิงวอนขอสันติภาพของโลก ความยุติธรรม สิทธิของมนุษยชน และเพื่อโลกของเราให้ดีขึ้นกว่าเดิม ...