ตอนที่ 1 “ข้าพเจ้าเชื่อ – เราเชื่อ”
(จากหนังสือประมวลคำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก ข้อที่ 1-32)
บทที่ 2 พระเจ้าเสด็จมาพบมนุษย์ บทที่ 2.3 พระคัมภีร์ ทำไมพระคัมภีร์จึงสอนความจริง พระเจ้าทรงเป็นผู้นิพนธ์พระคัมภีร์จึงกล่าวได้ว่าพระคัมภีร์ได้รับการดลใจและการสอนความจริงซึ่งจำเป็นสำหรับความรอดของเราโดยปราศจากความผิดพลาดพระจิตทรงดลใจผู้แต่งที่เป็นมนุษย์ ให้พวกเขาเขียนสิ่งที่พระองค์ทรงปรารถนาจะสอนเรา ดังนั้น ความเชื่อของคริสตชนมิได้เป็น “ศาสนาของหนังสือ” แต่เป็นศาสนาแห่งพระวาจาของพระเจ้า ต้องอ่านพระคัมภีร์อย่างไร เราต้องอ่านและตีความพระคัมภีร์ด้วยความช่วยเหลือจากพระจิตเจ้าและภายใต้การชี้นำของอำนาจการสอนของพระศาสนจักรตามบรรทัดฐาน 3 เกณฑ์ คือ 1. ต้องอ่านด้วยความตั้งใจต่อเนื้อหาและเอกภาพของพระคัมภีร์ทั้งเล่ม 2. ต้องอ่านตามธรรมประเพณีอันทรงชีวิตของพระศาสนจักร 3. ต้องอ่านด้วยความใส่ใจในอุปมา คือความสอดคล้องระหว่างกันของข้อความจริงในความเชื่อ สารบบในพระคัมภีร์คืออะไร รายการทั้งครบของหนังสือพระคัมภีร์เป็นธรรมประเพณีที่สืบมาจากอัครสาวกที่พระศาสนจักรยอมรับ สารบบนั้นประกอบด้วยข้อเขียน 46 เล่มในพันธสัญญาเดิม และ 27 เล่มในพันธสัญญาใหม่ พันธสัญญาเดิมมีความสำคัญต่อคริสตชนอย่างไร คริสตชนให้ความเคารพต่อพระคัมภีร์พันธสัญญาเดิมในฐานะเป็นพระวาจาที่แท้จริงของพระเจ้าหนังสือพันธสัญญาเดิมทุกเล่มได้รับการดลใจจากพระเจ้าและทรงรักษาไว้ซึ่งคุณค่าอย่างถาวร หนังสือ พันธสัญญาเดิมเป็นประจักษ์พยานถึงวิธีการสอนของพระเจ้าถูกเขียนขึ้นเพื่อเตรียมการเสด็จมาของพระคริสตเจ้า พันธสัญญาใหม่มีความสำคัญต่อคริสตชนอย่างไร มีศูนย์กลางของจุดมุ่งหมายคือพระเยซูคริสตเจ้า มอบความจริงอันแน่นอนเด็ดขาดในการเผยแสดงของพระเจ้าแก่เราประกอบด้วยหนังสือพระวรสารสี่เล่ม ของนักบุญมัทธิว มาระโก ลูกา และยอห์น เป็นพยานหลักฐานสำคัญถึงพระชนมชีพและคำสั่งสอนของพระเยซูเจ้า เป็นหัวใจของพระคัมภีร์ทั้งหมด มีตำแหน่งสำคัญเป็นเอกในพระศาสนจักร ความเป็นหนึ่งเดียวกันของพันธสัญญาเดิมและพันธสัญญาใหม่คืออะไร เป็นหนึ่งเดียวกันในฐานะที่เป็นพระวาจาของพระเจ้าเกิดจากเอกภาพแห่งแผนการช่วยให้รอดพ้นของพระเจ้า เอกภาพแห่งการดลใจของพระองค์ พันธสัญญาเดิมเป็นการเตรียมพันธสัญญาใหม่ พันธสัญญาใหม่ทำให้พันธสัญญาเดิมสมบูรณ์ ทั้งสองต่างให้ความสว่างแก่กันและกัน พระคัมภีร์ทำหน้าที่อะไรในชีวิตของพระศาสนจักร ค้ำจุนและเป็นพลังแห่งชีวิตของพระศาสนจักรเป็นพละกำลังแห่งความเชื่อ เป็นอาหารและท่อธารแก่ชีวิตฝ่ายจิตสำหรับบรรดาบุตรของพระศาสนจักร เป็นวิญญาณของเทววิทยาและศาสนบริการด้านการเทศน์สอน พระศาสนจักรจึงเตือนให้มีการอ่านพระคัมภีร์บ่อยๆ เพราะ “ การไม่รู้จักพระคัมภีร์ ก็เป็นการไม่รู้จักพระคริสตเจ้า ” |