Homeประมวลคำสอน ภาคที่ 1บทที่ 2.1 “พระเยซูคริสตเจ้าปฏิสนธิด้วยเดชะพระจิตบังเกิดจากพระนางพรหมจารีมารีย์”

บทที่ 2.1 “พระเยซูคริสตเจ้าปฏิสนธิด้วยเดชะพระจิตบังเกิดจากพระนางพรหมจารีมารีย์”



ตอนที่ 2 การประกาศความเชื่อของคริสตชน 
(จากหนังสือประมวลคำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก  ข้อที่ 33-217)

           

บทที่ 2 ข้าพเจ้าเชื่อในพระเยซูคริสตเจ้า พระบุตรหนึ่งเดียวของพระเจ้า

2.1 “พระเยซูคริสตเจ้าปฏิสนธิด้วยเดชะพระจิตบังเกิดจากพระนางพรหมจารีมารีย์”

ทำไมพระบุตรของพระเจ้าทรงบังเกิดเป็นมนุษย์

       เพื่อความรอดพ้นของเรามนุษย์ เพื่อคนบาปจะได้คืนดีกับพระเจ้า เพื่อทำให้เรารู้จักความรักอันไม่มีขอบเขตของพระองค์ เพื่อทรงเป็นแบบอย่างแห่งความศักดิ์สิทธิ์สำหรับเรา เพื่อทรงทำให้เรา “เข้ามามีส่วนร่วมในพระธรรมชาติของพระเจ้า” (2ปต 1:4)

คำว่า “รับธรรมชาติมนุษย์” (INCARNATION) หมายความว่าอะไร

       พระศาสนจักรเรียก “รับธรรมชาติมนุษย์” ว่าเป็นธรรมล้ำลึกแห่งการร่วมเป็นหนึ่งเดียวอันน่าพิศวงระหว่างพระธรรมชาติของพระเจ้ากับธรรมชาติมนุษย์ ในพระบุคคลของพระวจนาตถ์หนึ่งเดียว เพื่อให้การไถ่กู้เราเป็นจริงขึ้นมา พระบุตรของพระเจ้าต้องเสด็จมารับเอา“ธรรมชาติมนุษย์” (ยน 1:14) และกลายเป็นมนุษย์อย่างแท้จริง ความเชื่อในการรับธรรมชาติมนุษย์เป็นเครื่องหมายที่เด่นชัดของความเชื่อคริสตชน

พระเยซูคริสตเจ้าทรงเป็นพระเจ้าแท้และมนุษย์แท้ได้อย่างไร

       ในการเป็นหนึ่งเดียวกันของพระบุคคลของพระองค์ พระองค์ทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้าผู้ “ทรงบังเกิดมาแต่มิได้ถูกสร้าง ทรงพระธรรมชาติเดียวกันกับพระบิดา” ทรงเป็นมนุษย์แท้จริง ทรงเป็นพี่น้องของเรา ขณะเดียวกันก็มิได้ทรงหยุดการเป็นพระเจ้า องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา

สภาสังคายนาแห่งคัลซีโดเนีย (ปี 451) สอนอะไรในเรื่องนี้

       สอนเราให้ยืนยันว่า “พระบุตรแต่เพียงพระองค์เดียว พระเยซูคริสตเจ้าองค์พระผู้เป็นเจ้าของเราทรงสมบูรณ์แบบที่สุดในธรรมชาติของพระเจ้าของพระองค์และทรงสมบูรณ์แบบที่สุดในธรรมชาติมนุษย์ของพระองค์ ทรงเป็นพระเจ้าแท้และมนุษย์แท้ ทรงประกอบด้วยพระวิญญาณที่มีเหตุผลและร่างกาย ทรงร่วมพระธรรมชาติเดียวกันกับพระบิดาอันเนื่องมาจากการเป็นพระเจ้า ทรงร่วมธรรมชาติเดียวกันกับเราอันเนื่องมาจากการเป็นมนุษย์ “ทรงเหมือนเราในทุกอย่าง ยกเว้นบาป” (ฮบ 4:15) ทรงบังเกิดจากพระบิดาก่อนกาลเวลาในการเป็นพระเจ้า ในยุคสุดท้ายนี้เพราะเห็นแก่เราและเพราะเห็นแก่ความรอดพ้นของเรา ทรงบังเกิดจากพระนางมารีย์พรหมจารีและพระมารดาของพระเจ้า ตามธรรมชาติมนุษย์”

พระศาสนจักรแสดงออกถึงธรรมล้ำลึกของการรับธรรมชาติมนุษย์อย่างไร

       ด้วยการยืนยันว่า พระเยซูคริสตเจ้าทรงเป็นพระเจ้าแท้และมนุษย์แท้ โดยที่ทั้งสองพระธรรมชาติคือธรรมชาติมนุษย์และธรรมชาติพระเจ้าของพระองค์ไม่ปะปนกัน แต่เป็นหนึ่งเดียวกันในพระบุคคลของพระวจนาตถ์ ในการเป็นมนุษย์ของพระเยซูเจ้าทุกอย่าง การกระทำอัศจรรย์ การรับทุกข์ทรมาน การสิ้นพระชนม์ของพระองค์ ต้องถูกถือว่าเป็นพระบุคคลพระเจ้าที่กระทำโดยผ่านทางธรรมชาติมนุษย์ที่ถูกยกขึ้น

พระบุตรของพระเจ้าผู้ทรงบังเกิดเป็นมนุษย์ ทรงมีวิญญาณและความรู้แบบมนุษย์ด้วยหรือ

       ทรงรับเอาร่างกายที่มีชีวิตโดยวิญญาณมนุษย์ซึ่งสามารถสำนึกในเหตุผล พระเยซูเจ้าทรงเรียนรู้สิ่งต่างๆ ด้วยสติปัญญาของมนุษย์จากประสบการณ์ แม้ในฐานะที่ทรงเป็นมนุษย์ พระบุตรของพระเจ้าก็ยังทรงมีความรู้จักที่ใกล้ชิดและสนิทสนมกับพระเจ้าพระบิดาของพระองค์ด้วย พระองค์เข้าใจความคิดที่เร้นลับของมนุษย์ ทรงรอบรู้อย่างสมบูรณ์เต็มที่ถึงแผนการนิรันดรที่พระองค์ได้เสด็จมาเปิดเผย

เจตจำนงทั้งสองของพระวจนาตถ์ที่ทรงรับสภาพมนุษย์จะสอดคล้องกันได้อย่างไร

       พระเยซูเจ้าทรงมีเจตจำนงทั้งของพระเจ้าและของมนุษย์ในพระชนมชีพของพระองค์บนแผ่นดินนี้ พระบุตรของพระเจ้ามีความปรารถนาตามแบบมนุษย์ ทรงตัดสินทุกสิ่งตามแบบพระเจ้า ทรงกระทำร่วมกับพระบิดาและพระจิตเจ้าเพื่อความรอดของเรามนุษย์ เจตจำนงแบบมนุษย์ของพระคริสตเจ้านั้นกระทำตามพระประสงค์ของพระเจ้า โดยไม่มีการขัดขืนหรือลังเล คือยอมอยู่ใต้พระประสงค์ของพระเจ้า

พระคริสตเจ้าทรงมีร่างกายมนุษย์แท้จริงหรือ

       พระคริสตเจ้าทรงรับเอากายที่เป็นมนุษย์อย่างแท้จริง โดยทางนี้พระกายพระเจ้าที่เรามองเห็นไม่ได้นั้นกลับแลเห็นได้ ด้วยเหตุผลนี้เราจึงสามารถแทนและกราบบูชาพระคริสตเจ้าโดยทางรูปภาพศักดิ์สิทธิ์

พระหฤทัยของพระเยซูเจ้านั้นแทนอะไร

       พระเยซูเจ้าทรงรู้จักเราและทรงรักเราด้วยหัวใจที่เป็นมนุษย์ พระหฤทัยของพระองค์ที่ถูกแทงเพื่อความรอดพ้นของเรานั้น เป็นสัญลักษณ์ของความรักที่ไม่มีขอบเขต ซึ่งพระองค์ทรงรักพระบิดาและมนุษย์แต่ละคน

สำนวนที่ว่า “ปฏิสนธิเดชะพระจิต...” หมายความว่าอะไร

       พระนางพรหมจารีมารีย์ได้ปฏิสนธิพระบุตรนิรันดรในพระครรภ์ของพระนางด้วยพระอานุภาพของพระจิตเจ้า โดยปราศจากความร่วมมือของมนุษย์ ทูตสวรรค์กล่าวขณะที่มาแจ้งสารว่า “พระจิตเจ้าจะเสด็จลงมาเหนือท่าน” (ลก 1:35)

“...บังเกิดจากพระนางพรหมจารีมารีย์” พระนางมารีย์เป็นพระมารดาของพระเจ้าได้อย่างไร

       เป็นพระมารดาของพระเจ้าอย่างแท้จริงเพราะทรงเป็นพระมารดาของพระเยซูเจ้า (ยน 2:1;  19:25 ) ที่จริงแล้วองค์พระผู้ที่พระนางเป็นผู้ให้กำเนิดเป็นมนุษย์ด้วยพระอานุภาพของพระจิต  และได้กลายเป็นบุตรของพระนางอย่างแท้จริงนั้น  ทรงเป็นพระบุตรนิรันดรของพระเจ้าพระบิดา พระองค์ทรงเป็นพระเจ้า

“ปฏิสนธินิรมล” หมายความว่าอะไร

       พระเจ้าได้ทรงเลือกพระนางมารีย์ให้เป็นพระมารดาของพระบุตรของพระองค์ด้วยความสมัครพระทัยตั้งแต่นิรันดร เพื่อทรงทำให้พันธกิจนั้นสำเร็จไป พระนางทรงปฏิสนธินิรมลหมายความว่า  เดชะพระหรรษ-ทานของพระเจ้า และเดชะพระบารมีล่วงหน้าของพระเยซูคริสตเจ้า  พระนางมารีย์จึงได้รับการรักษาไว้ให้พ้นจากบาปกำเนิดนับตั้งแต่การปฏิสนธิของพระนาง

พระนางมารีย์ทรงร่วมมือกับแผนการแห่งความรอดของพระเจ้าอย่างไร

       โดยพระหรรษทานของพระเจ้า พระนางมารีย์ทรงได้รับการยกเว้นจากบาปส่วนพระองค์ทุกประการตลอดชีวิตของพระนาง พระนางทรง “เปี่ยมด้วยพระหรรษทาน” (ลก 1:28) ทรง “ศักดิ์สิทธิ์สมบูรณ์” เมื่อทูตสวรรค์แจ้งว่าพระนางจะเป็นผู้ให้กำเนิดแก่ “พระบุตรของพระผู้สุงสุด” (ลก 1:32)นั้นพระนางก็ทรงยินยอมด้วยความสมัครพระทัยทรง “ปฏิบัติตามด้วยความเชื่อ” (รม 1:5) พระนางมารีย์ได้มอบตัวเองโดยสิ้นเชิงให้แก่องค์พระเยซูเจ้าพระบุตรของพระนางและกิจการของพระองค์  ยอมรับอย่างเต็มหัวใจที่จะปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระเจ้าในการช่วยมนุษย์ให้รอดพ้น

ความเป็นพรหมจารีของพระนางมารีย์หมายความว่าอะไร

       พระเยซูเจ้าทรงปฏิสนธิในพระครรภ์ของพระนางพรหมจารีด้วยพระอานุภาพของพระจิตเจ้าแต่อย่างเดียวเท่านั้น โดยปราศจากความร่วมมือของมนุษย์ พระองค์ทรงเป็นพระบุตรของพระบิดาเจ้าสวรรค์ตามธรรมชาติพระเจ้า และทรงเป็นบุตรของพระนางมารีย์ตามธรรมชาติของมนุษย์ พระองค์ทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้าทั้งในสองธรรมชาติอย่างแท้จริง เพราะในพระองค์มีพระบุคคลเดียวเท่านั้นผู้ทรงเป็นพระเจ้า

พระนางมารีย์ทรงเป็น “พรหมจารีเสมอ” หมายความว่าอะไร

       “ทรงเป็นพรหมจารีในการปฏิสนธิพระบุตรของพระนาง ทรงเป็นพรหมจารีในการให้พระองค์บังเกิด ทรงเป็นพรหมจารีเวลาที่ทรงอุ้มพระองค์ ทรงเป็นพรหมจารีเวลาที่ทรงเลี้ยงดูฐานะพระมารดา ทรงเป็นพรหมจารีตลอดกาล” (นักบุญ ออกัสติน) ดังนั้น เมื่อพระวรสารกล่าวถึง “พี่น้องชายหญิงของพระเยซูเจ้า”  นั้นเป็นการกล่าวถึงญาติพี่น้องที่ใกล้ชิดของพระองค์ตามวิธีการพูดที่ใช้ในพระคัมภีร์

การเป็นมารดาฝ่ายจิตของพระนางมารีย์เป็นสากลได้อย่างไร

       พระนางมารีย์ทรงมีบุตรแต่เพียงพระองค์เดียวเท่านั้นคือพระเยซูเจ้า แต่ในพระองค์ การเป็นมารดาฝ่ายจิตของพระนางแผ่ไปถึงมนุษย์ทุกคนที่พระองค์ทรงเสด็จมาเพื่อไถ่กู้ โดยยอมเชื่อฟังเคียงคู่ไปกับอาดัมใหม่ คือ พระเยซูคริสตเจ้า พระนางพรหมจารีทรงเป็นเอวาใหม่เป็นมารดาที่แท้จริงของสิ่งมีชีวิตทั้งปวง ทรงร่วมมือด้วยความรักฉันมารดาในการเกิดมาและในการอบรมพวกเขาให้อยู่ในระเบียบของพระหรรษทานพระนางมารีย์ในฐานะพรหมจารีและพระมารดาทรงเป็นโฉมหน้าและความสำเร็จเป็นจริงอันสมบูรณ์ที่สุดของพระศาสนจักร

ชีวิตของพระคริสตเจ้าเป็นธรรมล้ำลึกหมายความว่าอะไร

       ชีวิตทั้งครบของพระคริสตเจ้าเป็นเหตุการณ์ของการเผยแสดงสิ่งที่เห็นได้ในชีวิตบนแผ่นดินนี้ของพระเยซูเจ้านำเราไปสู่ธรรมล้ำลึกที่มองไม่เห็นของการเป็นพระบุตรของพระเป็นเจ้าของพระองค์ แม้กระทั่งความรอดก็ได้รับการทำให้สำเร็จบริบูรณ์บนไม้กางเขนและในการกลับคืนพระชนมชีพ ชีวิตทั้งชีวิตของพระเยซูเจ้าคือธรรมล้ำลึกแห่งการไถ่กู้

พระเจ้าทรงเตรียมโลกสำหรับธรรมล้ำลึกของพระคริสตเจ้าอย่างไร

       ทรงเตรียมการเสด็จมาเป็นเวลาหลายศตวรรษ พระองค์ทรงปลุกการรอคอยการเสด็จมานี้ในหัวใจของทุกคน และทรงเตรียมการนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพันธสัญญาเดิม สิ้นสุดลงที่ท่านยอห์น ผู้ทำพิธีล้าง  เรากระทำให้การรอคอยอันยาวนานนี้กลับมีชีวิตอีกครั้งในพิธีกรรมเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า

พระวรสารสอนเกี่ยวกับธรรมล้ำลึกของการบังเกิดและปฐมวัยของพระเยซูเจ้าอย่างไร

       ในวันพระคริสตสมภพ พระสิริรุ่งโรจน์ได้แสดงออกในความอ่อนแอของทารก การเข้าสุหนัตของพระเยซูเจ้าเป็นเครื่องหมายของการเป็นส่วนหนึ่งของประชากรชาวฮีบรูและเป็นการบอกล่วงหน้าถึงศีลล้างบาปของเรา สมโภชพระคริสตเจ้าแสดงองค์เป็นการแสดงให้ชนทุกชาติได้เห็นพระเมสสิยาห์กษัตริย์ของอิสราเอล ในการถวายพระกุมารในพระวิหาร ท่านสิเมโอนและอันนา เป็นสัญลักษณ์ของการทำนายล่วงหน้าทุกประการของการรอคอยที่ชาวอิสราเอลได้มาพบกับพระผู้ไถ่ของตน การลี้ภัยไปอียิปต์และการประหารทารกผู้บริสุทธิ์เป็นการประกาศว่าชีวิตทั้งชีวิตของพระคริสตเจ้าจะอยู่ใต้เครื่องหมายแห่งการเบียดเบียน การเสด็จกลับจากประเทศอียิปต์เป็นการระลึกถึงการอพยพและแสดงพระเยซูเจ้าว่าทรงเป็นโมเสสใหม่และทรงเป็นผู้ปลดปล่อยที่แท้จริงและเด็ดขาด

ชีวิตซ่อนเร้นของพระเยซูเจ้าที่เมืองนาซาเร็ธให้บทสอนอะไรกับเรา

       พระเยซูเจ้าทรงเก็บตัวเงียบอยู่ในการดำเนินชีวิตแบบธรรมดาเปิดโอกาสให้เราได้สนิทสัมพันธ์กับพระองค์ในความศักดิ์สิทธิ์ของชีวิตประจำวันที่รวมการสวดภาวนา ความเรียบง่าย การทำงานและความรักในครอบครัวไว้ด้วยกัน การที่พระองค์ทรงอยู่ในโอวาทของพระนางมารีย์และนักบุญโยเซฟเป็นภาพลักษณ์ของความนบนอบฉันบุตรของพระองค์ต่อพระบิดา พระนางมารีย์และนักบุญโยเซฟน้อมรับธรรมล้ำลึกของพระเยซูเจ้าด้วยความเชื่อแม้ไม่เข้าใจเสมอไปก็ตาม

เหตุใดพระเยซูเจ้าทรงรับ “พิธีล้างซึ่งแสดงการเป็นทุกข์กลับใจเพื่อจะได้รับการอภัยบาป” (ลก 3:3) จากยอห์น

       เพื่อเป็นการเริ่มต้นชีวิตท่ามกลางสาธารณชน และเป็นการชิมลางของ “ศีลล้าง” แห่งการสิ้นพระชนม์ของพระองค์ นั่นคือแม้ไม่ทรงมีบาปแต่ก็ทรงยอมทำเช่นนั้นเพื่อทรงถูกนับรวมอยู่ในหมู่คนบาป การรับพิธีล้างของพระเยซูเจ้าเป็นการบอกล่วงหน้าถึงศีลล้างบาปของเรา

เราเรียนรู้อะไรจากการที่พระเยซูเจ้าทรงถูกประจญในที่เปลี่ยว

       เป็นการสรุปรวมการถูกประจญของอาดัมในสวนสวรรค์ และของชาวอิสราเอลในทะเลทราย ซาตานล่อลวงพระเยซูเจ้าในเรื่องของความนบนอบต่อพันธกิจที่ทรงได้รับมอบหมายจากพระบิดา พระคริสตเจ้าอาดัมใหม่ ทรงปฏิเสธการประจญ และทรงชนะการประจญอาศัยพระมหาทรมานของพระองค์ พระศาสน-จักรร่วมสนิทในธรรมล้ำลึกข้อนี้เป็นพิเศษในช่วงเทศกาลมหาพรต

       พระเยซูเจ้าทรงเชิญชวนมนุษย์ทุกคนให้มาเป็นส่วนหนึ่งของพระอาณาจักรของพระเจ้า แม้กระทั่งคนบาปหนักก็ถูกเรียกให้กลับใจและให้ยอมรับพระเมตตาอันไร้ขอบเขตของพระบิดา พระอาณาจักรซึ่งอยู่ในโลกนี้แล้วเป็นของทุกคนที่ยอมรับด้วยใจสุภาพ

พระเยซูเจ้าทรงเผยแสดงพระอาณาจักรโดยผ่านทางเครื่องหมายและอัศจรรย์ต่างๆ ด้วยเหตุใด

       ทรงให้พระวาจาของพระองค์ตามด้วยเครื่องหมายและอัศจรรย์ต่างๆเพื่อยืนยันว่าพระอาณาจักรอยู่ในพระองค์  การขับไล่ปีศาจเป็นการประกาศว่าไม้กางเขนของพระองค์จะมีชัยชนะเหนือ “เจ้านายแห่งโลกนี้”(ยน 12:31)

พระเยซูเจ้าทรงมอบอำนาจอะไรในพระอาณาจักรให้แก่บรรดาอัครสาวก

       ทรงเลือกอัครสาวกสิบสององค์ ประจักษ์พยานในอนาคตของการกลับคืนพระชนมชีพของพระองค์ ทรงทำให้พวกเขามีส่วนร่วมในพันธกิจและอำนาจของพระองค์ เพื่อสอนให้อภัยบาปเสริมสร้างและปกครองพระศาสนจักร นักบุญเปโตรได้รับมอบ “กุญแจอาณาจักรสวรรค์”

การแสดงพระองค์อย่างรุ่งโรจน์หมายความว่าอะไร

       ในการแสดงพระองค์อย่างรุ่งโรจน์พระตรีเอกภาพได้ทรงปรากฏทั้งสามพระองค์ “พระบิดาในพระสุรเสียง พระบุตรในร่างมนุษย์ พระจิตในเมฆที่สุกใส” พระเยซูเจ้าทรงแสดงให้เห็นถึงพระสิริรุ่งโรจน์ของพระองค์ผ่านทางไม้กางเขนและให้การคาดหวังถึงการกลับคืนพระชนมชีพและของสิริรุ่งโรจน์ของพระองค์ที่จะมาถึง “จะทรงเปลี่ยนรูปร่างอันต่ำต้อยของเราให้เหมือนพระกายอันรุ่งโรจน์ของพระองค์” (ฟป 3:21 )

การเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็มในฐานะพระเมสสิยาห์เกิดขึ้นได้อย่างไร

       เมื่อถึงเวลากำหนด พระเยซูเจ้าทรงตั้งพระทัยที่จะเสด็จเข้าไปยังกรุงเยรูซาเล็มเพื่อรับทรมาน สิ้นพระชนม์และกลับคืนพระชนมชีพ เป็นการแสดงการมาถึงของพระอาณาจักรซึ่งพระเมสสิยาห์กษัตริย์เสด็จเข้านครของพระองค์บนหลังลูกลา ทรงได้รับการต้อนรับจากพวกเด็กๆ การโห่ร้องของพวกเขาได้นำมาใช้ในบทศักดิ์สิทธิ์ของพิธีมิสซา บูชาขอบพระคุณ พิธีกรรมของพระศาสนจักรเริ่มต้นสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์ด้วยการเฉลิมฉลองการเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็มนี้ 

           

  แบบฝึกหัดบทที่ 2.1 “พระเยซูคริสตเจ้าปฏิสนธิด้วยเดชะพระจิตบังเกิดจากพระนางพรหมจารีมารีย์” 

สถิติการเยี่ยมชม

9680839
Today
Yesterday
This Week
Last Week
This Month
Last Month
All days
2195
4078
6273
9631860
167206
260177
9680839
Your IP: 18.222.200.143
Server Time: 2024-04-29 23:00:08

แบบฟอร์ม

instagram

พระศาสนจักร


สื่อ YOUTUBE


Laudato si’

บทเรียนคำสอน





บทภาวนา

พิธีกรรมต่างๆ

เอกสารพระศาสนจักร

บทความคำสอน



KAMSONCHAN

 

   องค์กรคาทอลิก              คณะนักบวช  
 

สภาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งประเทศไทย
คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อคริสตศาสนธรรม
แผนกคริสตศาสนธรรม
อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ
ศูนย์คริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ
สังฆมณฑลจันทบุรี
คณะรักกางเขนแห่งจันทบุรี
มูลนิธิสงเคราะห์เด็ก พัทยา
คามิลเลียนโซเชียลเซนเตอร์ ระยอง

  สังฆมณฑลนครราชสีมา                       
ศูนย์คริสตศาสนธรรม สังฆมณฑลนครราชสีมา
สังฆมณฑลอุบลราชธานี
ศูนย์คริสตศาสนธรรม สังฆมณฑลอุบลราชธานี   
สังฆมณฑลราชบุรี
ศูนย์คริสตศาสนธรรม สังฆมณฑลราชบุรี
ศูนย์คริสตศาสนธรรม สังฆมณฑลราชบุรี
สังฆมณฑลนครสวรรค์
สังฆมณฑลเชียงใหม่
  สังฆมณฑลสุราษฎ์ธานี
สังฆมณฑลอุดรธานี
ศูนย์คริสตศาสนธรรม สังฆมณฑลอุดรธานี

สภาการศึกษาคาทอลิกประเทศไทย
คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อความยุติธรรมและสันติ (ยส.)
คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อพระคัมภีร์
คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อสุขภาพอนามัย
สื่อมวลชนคาทอลิกประเทศไทย
สื่อมวลชนคาทอลิกประเทศไทย (อุดมสาร)
  ชมรมอธิการิณีเจ้าคณะนักบวชแห่งประเทศไทย
คณะภคินีเซนต์ปอลเดอร์ชาร์ต
คณะภคินีศรีชุมพาบาล       
คณะพระมหาไถ่แห่งประเทศไทย
คณะเซนต์คาเบรียล
คณะซาเลเซียน
คณะซาเลเซียน (ซิสเตอร์)
กางเขนแดงสาร

 



JSN Megazine template designed by JoomlaShine.com