ตอนที่ 2 การประกาศความเชื่อของคริสตชน
(จากหนังสือประมวลคำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก ข้อที่ 33-217)
บทที่ 3 ข้าพเจ้าเชื่อถึงพระจิต บทที่ 3.3 ฐานานุกรม ฆราวาส ชีวิตผู้รับเจิม สัตบุรุษ (ตอนที่ 2) ข้าพเจ้าเชื่อถึงสหพันธ์นักบุญ สหพันธ์นักบุญ หมายถึงการร่วมส่วนด้วยกันของสมาชิกทุกคนของพระศาสนจักรในเรื่องที่เกี่ยวกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ คือความเชื่อ ศีลศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ โดยเฉพาะศีลมหาสนิท รากฐานของความสัมพันธ์นี้คือมีความรักซึ่ง “ไม่เห็นแก่ตัว” และยังหมายถึงความสนิทสัมพันธ์กันระหว่างบุคคลศักดิ์สิทธิ์ (นักบุญ) กล่าวคือ ความสนิทสัมพันธ์กันระหว่างผู้ที่โดยพระหรรษทานช่วยให้เขาสัมพันธ์กับพระคริสตเจ้าผู้ทรงสิ้นพระชนม์และกลับคืนพระชนมชีพ บางคนเป็นผู้จาริกแสวงบุญอยู่บนแผ่นดินนี้ บางคนได้ผ่านพ้นชีวิตนี้ไปแล้วและกำลังรับการชำระให้บริสุทธิ์ ซึ่งยังต้องการคำภาวนาของเรา และบางคนก็ได้รับพระสิริรุ่งโรจน์ของพระเป็นเจ้าแล้ว พระนางมารีย์พระมารดาพระคริสตเจ้าและมารดาพระศาสนจักร พระนางมารีย์ทรงเป็นมารดาของพระศาสนจักรในระดับของพระหรรษทาน เพราะพระนางได้ให้กำเนิดพระบุตร พระเศียรของร่างกายอันได้แก่พระศาสนจักร ขณะที่พระเยซูกำลังจะสิ้นพระชนม์บนกางเขนได้ทรงมอบมารดาของพระองค์ให้กับศิษย์โดยกล่าวว่า “นี่คือแม่ของท่าน” หลังจากการเสด็จขึ้นสวรรค์ของพระบุตร พระนางได้ทรงช่วยพระศาสนจักรด้วยคำภาวนาของท่าน แม้หลังจากที่ถูกรับขึ้นสวรรค์แล้วพระนางก็ยังคงวิงวอนเพื่อบุตรของท่าน คารวกิจที่เรามีต่อพระนางเป็นแบบเฉพาะ จะพบในวันฉลองที่จัดถวายแด่พระมารดาและในบทภาวนา ข้าพเจ้าเชื่อถึงการยกบาป ศีลศักดิ์สิทธิ์ประการแรกและสำคัญสำหรับการให้อภัยบาปคือ ศีลล้างบาป สำหรับบาปหลังการล้างบาปแล้วนั้น พระคริสตเจ้าทรงตั้งศีลอภัยบาปขึ้น โดยอาศัยศีลศักดิ์สิทธิ์ประการนี้ ผู้ที่ได้รับศีลล้างบาปแล้วจะคืนดีกับพระเจ้าและพระศาสนจักร พระศาสนจักรมีอำนาจในการให้อภัยบาป เพราะพระคริสตเจ้าได้ทรงมอบอำนาจนี้แก่พระศาสนจักร (ยน 20:22-23) ข้าพเจ้าเชื่อถึงการคืนชีพของเนื้อหนัง เนื้อหนัง หมายถึงมนุษย์ในสภาพที่อ่อนแอและต้องตาย “เนื้อหนังคือจุดสำคัญของความรอด” (แตร์ตูเลียน) ที่จริงแล้วเราเชื่อในพระเป็นเจ้าพระผู้ทรงสร้างเนื้อหนัง พระวจนาตถ์ผู้ทรงรับสภาพมนุษย์ และเชื่อในการกลับคืนชีพของเนื้อหนัง หมายความว่า สถานภาพอันมีขอบเขตของมนุษย์ไม่เฉพาะแต่การมีวิญญาณแยกออกจากร่างกายเท่านั้น พระคริสตเจ้าทรงกลับคืนชีพอย่างแท้จริงและทรงดำรงอยู่อย่างไร พระองค์ก็จะทรงทำให้ทุกคนกลับคืนชีวิตในวันสุดท้ายอย่างนั้น หลังความตายวิญญาณแยกออกจากร่างกาย ร่างกายเน่าสลายไป ในขณะที่วิญญาณซึ่งไม่รู้จักตายก็จะไปพบกับการตัดสินของพระเจ้า และรอวันที่จะได้สัมพันธ์เข้ากับร่างกายเมื่อจะกลับคืนมาอย่างรุ่งเรืองในวันที่พระองค์จะเสด็จกลับมาอีกครั้ง ข้าพเจ้าเชื่อถึงชีวิตนิรันดร ชีวิตนิรันดรคือสิ่งที่เริ่มขึ้นทันทีหลังความตาย เป็นชีวิตที่ไม่สิ้นสุด การพิพากษาเป็นของแต่ละบุคคลซึ่งจะได้รับค่าตอบแทนจากพระเจ้าในทันทีที่สิ้นชีวิต ตามความเชื่อและกิจการงาน “สวรรค์” หมายถึงสถานภาพแห่งความสุขสูงสุดและเด็ดขาด ผู้ที่ตายในพระหรรษทานของพระเจ้าและไม่จำเป็นที่จะต้องชำระตนอีกต่อไป ก็จะรวมตัวกันใหม่รอบๆพระเยซูเจ้าและพระมารดา “ไฟชำระ” คือสถานภาพของผู้ตายในมิตรภาพกับพระเป็นเจ้า แต่ยังต้องชำระตนก่อนที่จะเข้าสู่ความบรมสุขในสวรรค์ คริสตชนที่อยู่บนโลกนี้สามารถช่วยบุคคลในไฟชำระได้ด้วยการสวดภาวนาอุทิศให้ “นรก” ประกอบด้วยการตัดสินลงโทษตลอดนิรันดร์สำหรับผู้ตายที่เลือกเอาบาปหนักด้วยความสมัครใจ คือการถูกตัดขาดจากพระเจ้าตลอดนิรันดร การพิพากษาเป็นของพระเจ้า จะเกิดขึ้นในการสิ้นสุดของโลก และมีแต่พระเจ้าผู้เดียวเท่านั้นที่ทราบถึงวันเวลา หลังจากการพิพากษาสุดท้าย จักรวาลจะได้รับการปลดปล่อยจากการเป็นทาสของความเน่าเปื่อย และจะมีส่วนร่วมในพระสิริรุ่งโรจน์ของพระคริสตเจ้า “อาแมน” คำว่า “อาแมน” ในภาษาฮีบรู ซึ่งเป็นการสรุปหนังสือเล่มสุดท้ายของพระคัมภีร์ บทภาวนาบางบทของพันธสัญญาใหม่และของพิธีกรรมต่างๆ ของพระศาสนจักร หมายความว่า “ขอรับ” ที่เต็มไปด้วยความมั่นใจและครบถ้วนของเรา เมื่อเรามอบความไว้วางใจอย่างสมบูรณ์ต่อพระองค์ ผู้ซึ่งเป็น “อาแมน” ที่เด็ดขาด (วว 3:14) คือพระคริสตเจ้า องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา |
แบบฝึกหัดบทที่ 3.3 ฐานานุกรม ฆราวาส ชีวิตผู้รับเจิม สัตบุรุษ
(ตอนที่ 2)