ตอนที่ 2 บทภาวนาขององค์พระผู้เป็นเจ้า
(จากหนังสือประมวลคำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก ข้อที่ 578-598)
บทที่ 1 บทข้าแต่พระบิดา จุดเริ่มต้นของบท “ข้าแต่พระบิดา” ปรากฏในพระวรสาร น.มัทธิว และ น.ลูกา ซึ่งของท่าน น.มัทธิว มีความสมบูรณ์มากกว่าพระศาสนจักรจึงเลือกใช้ของท่าน ความสำคัญของบทข้าแต่พระบิดา
ข้าแต่พระบิดาของข้าพเจ้าทั้งหลาย พระองค์สถิตในสวรรค์ เราสามารถเรียกพระเป็นเจ้าว่า “พระบิดา” เพราะพระบุตรของพระเป็นเจ้าผู้เสด็จมาบังเกิดเป็นมนุษย์ทรงเผยแสดงให้เราทราบ และพระจิตทรงทำให้เรารู้จักการวอนขอต่อพระบิดาทำให้เราเข้าไปอยู่ในธรรมล้ำลึกของพระองค์ด้วยความพิศวงใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา และปลุกเราให้ปรารถนาที่จะดำเนินชีวิตในฐานะบุตร “ของข้าพเจ้าทั้งหลาย” เราเป็นประชากรของพระองค์ในพระคริสตเจ้า เพราะเราร่วมเป็นหนึ่งเดียวกันในพระศานจักร ของพี่น้องมหาศาลที่เป็น “น้ำหนึ่งใจเดียวกัน” (กจ 4 :32) เป็นการภาวนาพร้อมกับมนุษย์ทุกคน และสำหรับชนชาติทั้งครบ เพื่อทุกคนจะมารู้จักพระเจ้าเที่ยงแท้แต่เพียงพระองค์เดียว และรวมกันเป็นหนึ่งเดียว “พระองค์สถิตในสวรรค์” แสดงถึงความรุ่งเรืองความศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้าและการประทับอยู่ของพระองค์ในหัวใจของผู้ชอบธรรมมิได้หมายถึงสถานที่ แต่หมายถึงรูปแบบของการเป็นอยู่ คือพระเป็นเจ้าทรงอยู่เลยโพ้นเหนือทุกสิ่ง การวอนขอเจ็ดประการ สามประการแรก จะไปในทางเทววิทยามากกว่า ซึ่งนำเราไปหาพระองค์เพื่อพระสิริมงคลของพระองค์ สี่ประการสุดท้าย วอนขอสำหรับความต้องการของเรา คำวอนขอแบบ–ข้าพเจ้าทั้งหลาย (we petition)
บทสรรเสริญ “พระนามพระองค์จงเป็นที่สักการะ” เป็นการวอนขอให้พระนามเป็นที่รู้จักและได้รับการสรรเสริญจากมนุษย์ทุกคน วอนขอการมาถึงครั้งสุดท้ายของพระอาณาจักรของพระเจ้า ทำให้พระองค์เป็นที่ล่วงรู้ในทุกสิ่งที่เรากระทำในพระนามของพระองค์ออกไปยังทุกที่ที่เกี่ยวข้องกับโลกของเรา ประกาศให้โลกรู้ว่านามของพระองค์ สำคัญกว่านามใดๆ ในโลกนี้ ทำให้พระองค์เป็นที่รู้จักในบรรดานานาชาติ “พระอาณาจักรจงมาถึง” เมื่อพระอาณาจักรของพระเจ้ามาถึง อาณาจักรแห่งความชั่วร้ายจะหมดไป อาณาจักรของพระเจ้าจะดำเนินต่อไปจนกว่าจะสำเร็จสมบูรณ์ในวาระสุดท้าย “พระประสงค์จงสำเร็จในแผ่นดินเหมือนในสวรรค์” พระประสงค์ของพระบิดา คือ ให้มนุษย์ทุกคนได้รับความรอดพ้น วอนขอพระบิดาให้รวมน้ำใจของเราเข้ากับพระองค์ ให้แผนการแห่งความรักของพระองค์สำเร็จสมบูรณ์บนแผ่นดินนี้ แต่เมื่อใดที่บุคคลหนึ่งยื่นมือไปช่วยอีกคนหนึ่ง แบ่งปันเสื้อคลุมให้ ช่วยเหลือคนป่วย และต่อต้านความอยุติธรรม นี่แหละคือพระประสงค์ของพระบิดา ทุกวันนี้ ผู้ใดที่ปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระเจ้าก็เป็นสมาชิกของพระอาณาจักรแล้วตั้งแต่เวลานี้และบนโลกใบนี้ โลกนี้ยังอยู่ห่างไกลจากการปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระเจ้าอย่างสมบูรณ์ เราจึงต้องวอนขอให้พระอาณาจักรมาถึงในอนาคตด้วยการที่พระเจ้าทรงครอบครองในจิตใจของเราแต่ละคน บทอ้อนวอน “โปรดประทานอาหารประจำวันแก่ข้าพเจ้าทั้งหลายในวันนี้” การวอนขออาหารประจำวันจากพระเจ้า หมายถึง ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราต้องการเพื่อประทังชีวิตของเรา เป็นการวอนขอให้พระเจ้าประทานอาหารซึ่งเรารับประทานตามปกติทุกวัน คำวอนขอนี้ยังหมายถึง ความต้องการอาหารฝ่ายจิตด้วย อันได้แก่ พระวาจาของพระเจ้า และพระกายของพระองค์ในศีลมหาสนิท เราวอนขอ “วันนี้” ด้วยความไว้ใจอย่างเต็มเปี่ยม เราจะต้องร่วมมือกับพระเจ้า พระเจ้าทรงดูแลนก ในอากาศแต่มันก็ต้องออกไปหาอาหารเองด้วย เราต้อง “แบ่งปัน” ซึ่งกันและกัน ภาวนาขอไม่ให้มีผู้หิวโหยในวันนี้ วอนขอเพื่อเราจะสามารถแบ่งปันผู้อื่นได้ “โปรดประทานอภัยแก่ข้าพเจ้า เหมือนข้าพเจ้าให้อภัยแก่ผู้อื่น” พระเยซูเจ้าทรงสอนให้เรายอมรับว่า เราเกิดมาในฐานะบาปในเวลาเดียวกันก็ยอมรับในพระเมตตา ของพระเจ้า “เราได้รับการไถ่กู้และอภัยบาปแล้ว” (คส 1 : 14) คำวอนขอของเราจะได้รับการสดับฟังต่อเมื่อเราให้อภัยแก่ผู้อื่นเสียก่อน ความเมตตากรุณาจะเข้าไปในจิตใจของเราได้ก็ต่อเมื่อเรารู้จักการให้อภัย การให้อภัยเป็นการมีส่วนร่วมในพระเมตตาของพระเป็นเจ้าและเป็นจุดสำคัญของการภาวนาของคริสตชน “โปรดช่วยข้าพเจ้าไม่ให้แพ้การประจญ” เป็นการทดลองเพื่อทดสอบบางคนว่าเขาดีมากน้อยเพียงใด และประจญบางคนเพื่อทำให้เขาผิดพลาดล้มเหลว ปีศาจใช้ประจญด้วยความคิดและความปรารถนา แต่พระเจ้าทรงใช้เพื่อทดสอบผู้ที่ทรงเลือกสรร เพื่อช่วยให้เขาเข้มแข็ง แม้เมื่อเราผิดพลาดก็ประทานโอกาสใหม่ให้เสมอในความพ่ายแพ้ พระเจ้าอาจมีพระประสงค์บางอย่าง บางครั้งในเกมส์กีฬา เราเรียนรู้จากความพ่ายแพ้มากกว่าชัยชนะ ให้เรารู้จักพึ่งพระองค์มากขึ้น ตราบใดที่ยังมีการประจญอยู่แสดงว่าเรายังไม่ตกอยู่ภายใต้อำนาจของปีศาจ “โปรดช่วยให้พ้นจากความชั่วร้ายเทอญ” “ความชั่วร้าย” คือ ปีศาจผู้ต่อสู้กับพระเจ้าและเป็น “ผู้ล่อลวงผู้อาศัยทั่วแผ่นดิน” (วว 12 : 9) พระคริสตเจ้าทรงมีชัยเหนือปีศาจ เราวอนขอให้มนุษย์ทั้งหลายได้รับอิสระจากปีศาจและกิจการของมันอย่างเด็ดขาด ให้เรารอดพ้นจากภัย ความทุกข์ยากต่างๆ ซึ่งเราเองอาจเป็นสาเหตุโดยไม่รู้ตัว ความชั่วร้ายที่สำคัญ คือ บาป “อาแมน” ในตอนท้ายของการภาวนาท่านกล่าวคำว่า อาแมน ด้วยการเน้นคำว่า อาแมน ซึ่งหมายความว่า “ขอให้เป็นไปตามนั้นเทอญ” หมายถึงทุกสิ่งที่อยู่ในบทภาวนาที่พระเป็นเจ้าได้ทรงสอนเรา (น. ซิริล แห่งกรุงเยรูซาเล็ม) |