HomeJubilee 2025ข้อมูลทั่วไป2. สรุปใจความสำคัญของ สังฆธรรมนูญว่าด้วยเรื่องพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ (Sacrosanctum Concilium)

2. สรุปใจความสำคัญของ สังฆธรรมนูญว่าด้วยเรื่องพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ (Sacrosanctum Concilium)

สังฆธรรมนูญว่าด้วยเรื่องพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์
(Constitution on the Sacred Liturgy - Sacrosanctum Concilium)
ประกาศเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 1963
โดยพระสันตะปาปาเปาโลที่ 6 

             พระศาสนจักรประกาศพระวรสารไม่เพียงแต่ด้วยคำพูดเท่านั้น แต่ในศีลศักดิ์สิทธิ์ด้วย เนื่องจากประชากรของพระเจ้าทั้งหมดมีส่วนร่วมในการนมัสการนี้ เครื่องหมายต่าง ๆ เหล่านี้จึงต้องมีความหมาย มีพระคริสตเจ้าเป็นศูนย์กลาง สามารถเข้าใจได้ มีการอธิบายความหมายของพระคัมภีร์ เทววิทยา ชีวิตของพระศาสนจักรในมิติต่าง ๆ และการมีส่วนร่วมของทุกฐานันดรในพระศาสนจักร 

พิธีกรรมก่อนสังคายนาวาติกันที่ 2 

            1. เน้นบทบาทของพระสงฆ์ผู้ประกอบพิธีกรรมเป็นหลัก พระสงฆ์ 1 องค์ สามารถประกอบพิธีบูชาขอบพระคุณได้ 1 ครั้งต่อ 1 วัน (การอวยพรศีลมหาสนิทจึงเป็นพิธีกรรมที่บรรดาสัตบุรุษสามารถร่วมได้ในเวลาอื่น หรือเวลาที่พวกเขาสะดวกในภายหลังหรือนอกพิธีบูชาขอบพระคุณ) พระสงฆ์จะใช้เวลาประกอบพิธีบูชาขอบพระคุณประมาณ 20 นาที บรรดาสัตบุรุษจึงมีหน้าที่เพียงแค่การฟังสิ่งที่พระสงฆ์กล่าวเท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่ไม่เข้าใจ ในวันฉลองพระสงฆ์จะต้องขับร้องบทเพลงภาษาลาตินด้วยตนเอง โดยมีเด็กช่วยมิสซาหรือคณะนักขับร้องช่วยขับร้องเป็นภาษาลาติน ในพระวิหารใหญ่ ๆ เราจึงสังเกตเห็นพระแท่นหรือวัดน้อยจำนวนมากมายล้อมรอบพระแท่นหลัก หรืออยู่ตามผนังของวัด เพื่อให้พระสงฆ์ 1 องค์ ประกอบพิธีบูชาขอบพระคุณของตนเอง ส่วนบรรดาสัตบุรุษก็สามารถเลือกฟังได้ตามใจชอบอยู่ภายนอกหรือบริเวณที่กั้นเอาไว้ 

            2. บรรดาสัตบุรุษไม่มีส่วนร่วมในพิธีกรรม เป็นเพียงแค่ผู้ดู หรือผู้สังเกตการณ์ด้วยความเคารพเท่านั้น มีเพียงแค่เด็กช่วยมิสซาที่เป็นเด็กผู้ชายเท่านั้นที่เป็นผู้ช่วยพระสงฆ์ในพิธีกรรมบางส่วน เมื่อเสียงระฆังเริ่มพิธีดังขึ้น สัตบุรุษแต่ละคนก็จะสวดภาวนาตามรูปแบบที่ตนชอบ ส่วนมากก็จะเป็นการสวดสายประคำ เมื่อกระดิ่งตอนเสกศีลมหาสนิทดัง ก็จะพนมมือ หยุดการสวดภาวนาส่วนตัวเอาไว้ และตั้งใจกับพิธีกรรมที่พระสงฆ์และเด็กช่วยมิสซากำลังกระทำ สัตบุรุษไม่ได้มีส่วนร่วมในการสำนึกผิด บทสารภาพบาป การสวดบทข้าแต่พระบิดา การอ่านพระคัมภีร์ สิ่งที่บรรดาสัตบุรุษสามารถกระทำได้คือ การรับศีลมหาสนิทด้วยความเคารพ ซึ่งเข้าใจถูกต้องว่าเป็นทั้งพระกายและพระโลหิตของพระเยซูคริสตเจ้า พระเยซูเจ้าเป็นพระผู้ไถ่บาป ทรงรับทรมานและสิ้นพระชนม์เพียงครั้งเดียวเพื่อไถ่บาปมนุษย์ทั้งมวล การรับพระพรจากพระจิตเจ้าที่ประทานมาให้ บรรดาสัตบุรุษชอบที่จะมาร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณล่าช้า และเมื่อรับศีลมหาสนิทแล้วก็จะรีบออกไปจากวัดทันที 

            4. พิธีกรรมมีความสง่างาม น่าเคารพ ชวนศรัทธา ศักดิ์สิทธิ์ มีการขับร้องบทเพลงเกรโกเรียนที่เป็นภาษาลาตินเท่านั้น

            5. พระคัมภีร์และบทพิธีกรรมเป็นภาษาลาติน ไม่มีการเทศน์สอนสัตบุรุษเกี่ยวกับเทววิทยา พระคัมภีร์ ความหมายของพิธีกรรม กฎศีลธรรม หรือชีวิตของพระศาสนจักรในด้านต่าง ๆ แม้แต่ในวันอาทิตย์ 

            6. บทอ่านจากหนังสือพระคัมภีร์อาจอ่านเป็นภาษาพื้นเมืองได้ในกรณีที่มีการแปลพระคัมภีร์เป็นภาษาพื้นเมือง (ซึ่งมีน้อยมาก) บทอ่านในหนังสือพระคัมภีร์ยังมีไม่มาก จากพันธสัญญาเดิมมี 1% จดหมายในพันธสัญญาใหม่ หนังสือกิจการอัครสาวก และหนังสือวิวรณ์ มีประมาณ 11% และข้อความจากพระวรสารมีประมาณ 22% 

            7. บทเทศน์เกือบทั้งหมดเน้นเรื่องศีลธรรม การส่งเสริมชีวิตที่ศักดิ์สิทธิ์และดีงาม บทเทศน์สอนเกี่ยวกับเทววิทยาด้านต่าง ๆ ยังมีน้อย เช่น พระตรีเอกภาพ การรับเอากาย การสิ้นพระชนม์และการกลับคืนพระชนมชีพ พระจิตเจ้า ศีลศักดิ์สิทธิ์ บรรดาสัตบุรุษมีความรู้จากการสอนคำสอนในวัยเด็กเท่านั้น เมื่อโตเป็นผู้ใหญ่จะถูกสอนด้านศีลธรรม ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับสังคมในสมัยนั้น 

            8. วัดจะต้องถูกสร้างให้พระสงฆ์และบรรดาสัตบุรุษหันหน้าไปทางทิศตะวันออกเวลาประกอบพิธีกรรม 

            จากสภานการดังกล่าว พระศาสนจักรจึงมีความจำเป็นเร่งด่วนมาเป็นอันดับแรก ในการปฏิรูปพิธีกรรมที่ให้ความหมายกับชีวิต เน้นการมีส่วนร่วมของบรรดาสัตบุรุษ ความเข้าใจ การอ่านพระคัมภีร์ เทววิทยาต่าง ๆ  กฎศีลธรรมคาทอลิก และชีวิตพระศาสนจักรด้านอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง สังคายนาวาติกันจึงออกเอกสารการปรับปรุงด้านพิธีกรรมนี้มาเป็นอันดับแรก โดยให้พระเยซูเจ้าเป็นศูนย์กลางของทุกพิธีกรรม และพิธีศีลศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ มีศีลมหาสนิทเป็นบ่อเกิดและชีวิตของพระศาสนจักร (SC10)

 

พิธีกรรมหลังสังคายนาวาติกันที่ 2 

            1. พิธีบูชาขอบพระคุณมีพิธีศีลมหาสนิทที่มีความสำคัญสูงสุด และมีพระธรรมล้ำลึกเรื่องพระคริสตเจ้าเป็นศูนย์กลาง ดังนั้น บรรดาสัตบุรุษจึงจะต้องเตรียมตัวอย่างเหมาสม รู้ตัว เต็มใจ มากกว่าการมาร่วมพิธีตามกฎระเบียบ หรือเป็นเพียงแค่ผู้สังเกตการณ์เท่านั้น และจะต้องได้รับประโยชน์ฝ่ายจิตวิญญาณจากการมาร่วมพิธีกรรม (SC11) 

            2. มีการปรับปรุงแก้ไขพิธีกรรม (แต่งขึ้นมาใหม่) โดยเฉพาะพิธีบูชาขอบพระคุณ และอนุญาตให้ใช้ภาษาพื้นเมืองที่ได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการจากสันตะสำนักแล้ว เพื่อความเข้าใจ การมีส่วนร่วม และผลประโยชน์ฝ่ายวิญญาณของบรรดาสัตบุรุษ 

            3. มีการประยุกต์ความเชื่อเข้าสู่วัฒนธรรมท้องถิ่น (Inculturation) เช่น การแปลจารีตพิธีกรรมเป็นภาษาท้องถิ่น รวมถึงพระคัมภีร์ บทภาวนา หนังสือคำสอน บทเพลง และสามารถใช้เครื่องดนตรีหรือวัสดุอุปกรณ์ในท้องถิ่นมาใช้ในพิธีกรรมอย่างความเหมาะสมได้ (SC112, 116, 119 และ 120) 

            4. พระสงฆ์จะต้องอธิบายความหมายของพิธีกรรมต่าง ๆ ให้กับบรรดาสัตบุรุษได้เข้าใจ รวมถึงการอธิบายพระคัมภีร์ คำสอนของพระศาสนจักร กฎศีลธรรม ธรรมประเพณี และชีวิตของพระศาสนจักร (SC14) 

            5. สาระสำคัญของพิธีบูชาขอบพระคุณจะต้องไม่เปลี่ยนแปลง เช่น บทเสกศีลมหาสนิท แต่ในส่วนอื่น ๆ  ที่สามารถประยุกต์ให้เข้ากับวัฒนธรรมท้องถิ่นสามารถกระทำได้หากไม่ขัดแย้งกับคำสอนของพระศาสนจักรสากล เช่น การนั่ง การยืน การคุกเข่า การพนมมือ วิธีการประพรมน้ำเสก การถวายกำยาน การจัดดอกไม้ การใช้วัสดุในท้องถิ่นมาทำเป็นศาสนภัณฑ์ต่าง ๆ การเปลี่ยนแปลงสาระสำคัญของพิธีกรรมจะต้องขออนุญาตจากสันตะสำนักเท่านั้น (SC21-22) 

            6. เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของบรรดาสัตบุรุษ พวกเขาสามารถมีส่วนร่วมในการตอบรับ บทสดุดี บทสวด บทขับร้องสรรเสริญ บทเพลงสรรเสริญ ตลอดจนการกระทำ ท่าทาง และท่าทางของร่างกาย และในเวลาที่เหมาะสมควรนิ่งเงียบด้วยความเคารพ (SC30) 

            7. พิธีกรรมควรรักษาสาระสำคัญเอาไว้ โดย “มีความเรียบง่ายแต่มีเกียรติ” ควร “สั้นแต่ชัดเจน” และ “ไม่มีการกล่าวซ้ำที่ไม่มีประโยชน์” เพื่อให้บรรดาสัตบุรุษได้เข้าใจธรรมชาติของคำสอนเหล่านั้นได้ง่ายขึ้น (SC34 และ 50) 

            8. ส่งเสริมการอ่านและการอธิบายพระคัมภีร์ให้มีมากขึ้นในพิธีกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะในวันอาทิตย์ วันฉลองสำคัญ ควรมีการเทศน์สอนทุกครั้ง (SC51-52) 

            9. ภาษาลาติน ในส่วนที่เป็นพิธีบูชาขอบพระคุณ บทสวด บทเพลง พิธีกรรมต่าง ๆ ยังสามารถใช้ภาษาลาตินได้ตามความเหมาะสม อย่างไรก็ตาม ต้องระมัดระวังเพื่อให้แน่ใจว่าบรรดาสัตบุรุษสามารถพูด หรือร้องเพลงร่วมกันเป็นภาษาละตินในส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับพวกเขา (SC36 และ 54 ) 

 

เอกสารสังฆธรรมนูญว่าด้วยเรื่องพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ (Sacrosanctum Concilium) ได้ครบรอบ 61 ปี เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2025 ที่ผ่านมา เราคิดว่าพระศาสนจักรได้เกิดการเปลี่ยนแปลงมากน้อยเพียงใด หรือจะพัฒนาต่อยอดไปได้อย่างไร ตามจิตตารมณ์ของเอกสารฉบับนี้ 

            1. การมีส่วนร่วมของบรรดาสัตบุรุษในพิธีกรรม การตอบรับ การอ่านบทอ่าน ถือของถวาย เก็บถุงทาน ต้อนรับ ช่วยพิธีกรรมทั้งผู้ชายและผู้หญิง การร้องเพลง 

            2. ความเข้าใจของบรรดาสัตบุรุษต่อพิธีกรรม พระคัมภีร์ พิธีกรรม เทววิทยา ศีลธรรม คำสอนของพระศาสนจักร 

            3. การประยุกต์ความเชื่อเข้าสู่พิธีกรรม การแปลพระคัมภีร์เป็นภาษาไทย บทสวดภาษาไทย คำศัพท์ที่ใช้ คำกลอน บทเพลงภาษาไทย การใช้วัสดุจากท้องถิ่นมาทำศาสนภัณฑ์ต่าง ๆ  เช่น เสื้อผ้า ลวดลาย สถาปัตยกรรม การจัดดอกไม้ อิริยาบทในพิธีกรรม การอธิบายเทววิทยาโดยใช้วัฒนธรรมไทย เช่น เทววิทยาข้าว การใช้ธูป 

            4. ประเด็นอื่น ๆ  บทบาทของสตรีในพระศาสนจักร กฎศีลธรรมในวัฒนธรรมไทย ปัญหาเรื่องคำศัพท์ทางศาสนาอื่น ๆ

 

++++++++++0++++++++++

 

สถิติการเยี่ยมชม

11045100
Today
Yesterday
This Week
Last Week
This Month
Last Month
All days
3929
7396
17794
10986471
48544
115820
11045100
Your IP: 3.131.142.67
Server Time: 2025-04-08 17:43:10

แบบฟอร์ม

instagram

พระศาสนจักร


สื่อ YOUTUBE


Laudato si’

บทเรียนคำสอน





บทภาวนา

พิธีกรรมต่างๆ

เอกสารพระศาสนจักร

บทความคำสอน



KAMSONCHAN

 

   องค์กรคาทอลิก              คณะนักบวช  
 

สภาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งประเทศไทย
คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อคริสตศาสนธรรม
แผนกคริสตศาสนธรรม
อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ
ศูนย์คริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ
สังฆมณฑลจันทบุรี
คณะรักกางเขนแห่งจันทบุรี
มูลนิธิสงเคราะห์เด็ก พัทยา
คามิลเลียนโซเชียลเซนเตอร์ ระยอง

  สังฆมณฑลนครราชสีมา                       
ศูนย์คริสตศาสนธรรม สังฆมณฑลนครราชสีมา
สังฆมณฑลอุบลราชธานี
ศูนย์คริสตศาสนธรรม สังฆมณฑลอุบลราชธานี   
สังฆมณฑลราชบุรี
ศูนย์คริสตศาสนธรรม สังฆมณฑลราชบุรี
ศูนย์คริสตศาสนธรรม สังฆมณฑลราชบุรี
สังฆมณฑลนครสวรรค์
สังฆมณฑลเชียงใหม่
  สังฆมณฑลสุราษฎ์ธานี
สังฆมณฑลอุดรธานี
ศูนย์คริสตศาสนธรรม สังฆมณฑลอุดรธานี

สภาการศึกษาคาทอลิกประเทศไทย
คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อความยุติธรรมและสันติ (ยส.)
คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อพระคัมภีร์
คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อสุขภาพอนามัย
สื่อมวลชนคาทอลิกประเทศไทย
สื่อมวลชนคาทอลิกประเทศไทย (อุดมสาร)
  ชมรมอธิการิณีเจ้าคณะนักบวชแห่งประเทศไทย
คณะภคินีเซนต์ปอลเดอร์ชาร์ต
คณะภคินีศรีชุมพาบาล       
คณะพระมหาไถ่แห่งประเทศไทย
คณะเซนต์คาเบรียล
คณะซาเลเซียน
คณะซาเลเซียน (ซิสเตอร์)
กางเขนแดงสาร

 



JSN Megazine template designed by JoomlaShine.com