พระเยซูเจ้าตรัสกับเปโตรทีสวนเกทเสมนีว่า “ท่านตื่นเฝ้าอยู่กับเราสักหนึ่งชั่วโมงไม่ได้หรือ” (มธ ๒๖:๔๐) แต่สำหรับเราขอแค่ ๑ นาทีกับพระเมตตาของพระเยซูเจ้าไม่ได้หรือ.....
วันที่ ๒๖ พฤศจิกายน
จงรู้เถิดว่า......
ในเวลานั้น ดิฉันเห็นพระเยซูเจ้า มีรังสีสองสายส่องออกมาจากพระหฤทัยโอบรอบร่างดิฉันไว้ทั้งหมด แล้วความทรมานก็หายเป็นปลิดทิ้งพระองค์ตรัสว่า “ลูกรัก จงรู้เถิดว่าลำพังตัวลูกเองนั้น ลูกย่อมมีสภาพไม่ต่างกับที่เพิ่งพบมา ลูกมีส่วนร่วมในชีวิตนิรันดรและพระพรที่เราทุ่มเทให้ด้วยพระหรรษทานของเราเท่านั้น” พระดำรัสของพระเยซูเจ้านี้ทำให้ดิฉันรู้จักธาตุแท้ของตัวเอง พระเยซูเจ้าทรงสอนบทเรียนเรื่องความสุภาพแท้และความวางใจในพระองค์เต็มเปี่ยมในเวลาเดียวกัน หัวใจของดิฉันกลายเป็นฝุ่นดินและขี้เถ้าจนว่าหากทุกคนเหยียบย่ำดิฉันไว้ใต้เท้า ดิฉันก็ยังถือว่าเป็นความกรุณาแล้ว อันที่จริงแล้ว ดิฉันรู้ซึ้งจากตัวรู้นี้เองว่า ดิฉันเป็นเพียงความเปล่า เพื่อว่าการคลายพยศจะได้เป็นความชุ่มชื่นของดิฉัน (บันทึกพระเมตตาในวิญญาณนักบุญโฟสตินา ข้อ ๑๕๕๙)
ภาวนาตอบรับพระเมตตา
พระเยซูเจ้าข้า ลูก “รู้ว่ามนุษย์ไม่ใช่ผู้บงการวิถีชีวิตของตน ผู้เดินทางจะเลือกทิศทางของตนไม่ได้”[ยรม. ๑๐: ๒๓] ; แต่“ลูกทำทุกสิ่งได้ในพระองค์ผู้ประทานพละกำลังแก่ข้าพเจ้า” [เทียบ ฟป. ๔:๑๓]
พระเยซูเจ้าข้า “พระองค์ทรงเปี่ยมด้วยพระเมตตา ทรงสำแดงความรักยิ่งใหญ่ต่อเรา”[เทียบ อฟ. ๒: ๔]; “พระองค์ประทานทุกสิ่งที่ลูกต้องการอย่างสมศักดิ์ศรีกับความมั่งคั่งของพระองค์ในพระคริสตเยซู” [เทียบ ฟป. ๔: ๑๙]
พระเยซูเจ้า ผู้อ่อนหวาน “ธรรมบัญญัติจากพระโอษฐ์ของพระองค์ มีค่าสำหรับข้าพเจ้ายิ่งกว่าเงินทองนับพันแท่ง” [สดด. ๑๑๙: ๗๒]
อาแมน
คุณพ่อเอนก นามวงษ์