พระเยซูเจ้าตรัสกับเปโตรทีสวนเกทเสมนีว่า “ท่านตื่นเฝ้าอยู่กับเราสักหนึ่งชั่วโมงไม่ได้หรือ” (มธ ๒๖:๔๐) แต่สำหรับเราขอแค่ ๑ นาทีกับพระเมตตาของพระเยซูเจ้าไม่ได้หรือ.....
วันที่ ๒๘ พฤศจิกายน
อารามและวัดต่าง ๆ [ตอนที่ ๑]
เมื่อดิฉันเดินรูปสิบสี่ภาคใกล้จบแล้ว พระเยซูเจ้าทรงตัดพ้อกับดิฉันเรื่องการขาดความรักในวิญญาณของนักบวชและพระสงฆ์ เกี่ยวกับการขาดความรักในวิญญาณที่ได้รับเลือก “เราจะปล่อยให้อารามและวัดต่างๆถูกทำลาย” ดิฉันตอบว่า “ข้าแต่พระเยซูเจ้า แต่ว่ามีวิญญาณในอารามมากมายนักที่สรรเสริญพระองค์” พระองค์ตรัสตอบว่า “คำสรรเสริญนั่นแหละทำให้เราเสียใจ เพราะความรักได้ถูกขับไล่ไปจากอารามแล้ว... วิญญาณที่ไม่มีความรัก ไม่มีความศรัทธา วิญญาณที่มีแต่ความเห็นแก่ตัวและหลงตัวเอง วิญญาณที่มีแต่ความอวดดีและหยิ่งยโส วิญญาณที่มีแต่ความหลอกลวงและหน้าไหว้หลังหลอก วิญญาณเย็นเฉยที่ซังกะตายอยู่ไปวันๆ เราย่อมทำใจรับไม่ได้ กระแสน้ำไหลเลี่ยงโขดหินฉันใด กระแสพระหรรษทานที่เราทุ่มเทให้พวกเขาย่อมเลี่ยงไปจากพวกเขาฉันนั้น เราทนพวกเขาไม่ไหว เพราะจะว่าพวกเขาเป็นคนดีก็ไม่ใช่ เป็นคนเลวก็ไม่เชิง เราตั้งอารามต่างๆขึ้นมาก็เพื่อทำให้โลกศักดิ์สิทธิ์ ความรักและการพลีกรรมที่เข้มข้นควรเต็มไปด้วยความเร่าร้อนที่นั่น (บันทึกพระเมตตาในวิญญาณนักบุญโฟสตินา ข้อ ๑๗๐๒)
ภาวนาตอบรับพระเมตตา
พระเยซูเจ้าข้าโปรดให้อภัยพระสงฆ์และนักบวชที่ลืมทำหน้าที่ของตนเองด้วยเทอญ “ถึงกระนั้น เรามีเรื่องตำหนิท่านด้วย คือท่านละทิ้งความรักที่เคยมีแต่ก่อน”[วว. ๒: ๔]
ข้าแต่พระเยซูเจ้า ผู้อ่อนหวาน ลูกขอโทษพระองค์สำหรับพระสงฆ์และนักบวช ที่ไม่มีความรัก ไม่มีความศรัทธา พระสงฆ์นักบวชที่มีแต่ความเห็นแก่ตัวและหลงตัวเอง ที่มีแต่ความอวดดีและหยิ่งยโส ที่มีแต่ความหลอกลวงและหน้าไหว้หลังหลอก และพระสงฆ์ที่ใจเย็นเฉยที่ซังกะตายอยู่ไปวันๆ “แม้ข้าพเจ้าจะประกาศพระวาจา เข้าใจธรรมล้ำลึกทุกข้อ และมีความรู้ทุกอย่าง หรือมีความเชื่อพอที่จะเคลื่อนภูเขาได้ ถ้าไม่มีความรัก ข้าพเจ้าก็ไม่มีความสำคัญแต่อย่างใด”[๑ คร. ๑๓: ๒]; “แม้ข้าพเจ้าจะแจกจ่ายทรัพย์สินทั้งปวงให้แก่คนยากจน หรือยอมมอบตนเองให้นำไปเผาไฟเสียถ้าไม่มีความรัก ข้าพเจ้าก็มิได้รับประโยชน์ใด” [๑ คร. ๑๓: ๓]
อาแมน
คุณพ่อเอนก นามวงษ์