พระเยซูเจ้าตรัสกับเปโตรทีสวนเกทเสมนีว่า “ท่านตื่นเฝ้าอยู่กับเราสักหนึ่งชั่วโมงไม่ได้หรือ” (มธ ๒๖:๔๐) แต่สำหรับเราขอแค่ ๑ นาทีกับพระเมตตาของพระเยซูเจ้าไม่ได้หรือ.....
วันที่ ๑๔ ธันวาคม
บทสนทนาของพระเจ้าผู้ทรงพระเมตตากรุณากับวิญญาณที่ทนทุกข์ (ตอนที่ ๔)
พระเยซูเจ้า: “เอาละลูกเอ๋ย คราวนี้ลูกเล่าให้เราฟังมากทีเดียว เรารู้ว่าเป็นเรื่องที่เจ็บปวดขนาดไหนที่ไม่มีใครเข้าใจ โดยเฉพาะคนที่เรารัก กับคนที่เราได้เปิดเผยต่อเขามาก แต่จงพอใจเถิดเมื่อรู้ว่าเราเข้าใจความทุกข์ร้อนและความน่าเวทนาของลูกหมดทุกอย่าง ถึงอย่างไรเราก็พอใจในความเชื่ออันหนักแน่นที่ลูกมีต่อบรรดาผู้แทนของเรา จงเรียนรู้จากเรื่องนี้ว่าไม่มีใครเข้าใจวิญญาณหนึ่งได้ทั้งหมด นั่นเกินขีดความสามารถของมนุษย์ เพราะฉะนั้น เราจึงยังอยู่บนโลกเพื่อบรรเทาจิตใจที่ปวดร้าวของลูกและให้กำลังใจลูก เพื่อว่าลูกจะได้ไม่สะดุดระหว่างทาง ลูกกล่าวว่าความมืดทึบทำให้จิตใจของลูกมืดมัว แต่เหตุใดในเวลาเช่นนั้นลูกจึงไม่มาหาเราผู้เป็นองค์ความสว่าง ซึ่งในชั่วอึดใจเดียวก็สามารถหลั่งความรู้ความเข้าใจในเรื่องความศักดิ์สิทธิ์เข้าไปในวิญญาณลูกได้มากยิ่งกว่าที่จะอ่านพบในหนังสือเล่มใดๆ” (บันทึกพระเมตตาในวิญญาณนักบุญโฟสตินา ข้อ ๑๔๘๗)
วิญญาณของท่าน: (จะตอบรับพระมหากรุณาของพระเจ้าอย่างไร?)
ภาวนาตอบรับพระเมตตา
พระเยซูเจ้าข้า“โปรดทอดพระเนตรความทุกข์ร้อนและความเจ็บปวดของข้าพเจ้า และทรงลบล้างบาปทั้งปวงของข้าพเจ้าให้สิ้นไป”[สดด. ๒๔: ๑๘]
พระเยซูเจ้าข้า “พระองค์ทรงเป็นแหล่งลี้ภัยและทรงเป็นพละกำลังสำหรับชาวเรา เป็นความช่วยเหลือที่พร้อมเสมอในยามเดือดร้อน ดังนั้น เราจึงไม่มีความกลัว แม้แผ่นดินจะสั่นสะเทือน แม้ภูเขาจะหวั่นไหวอยู่ในทะเลลึกแม้น้ำทะเลจะส่งเสียงกึกก้อง เดือดเป็นฟอง และคลื่นใหญ่ทำให้ภูเขาสั่นไหว (พระยาห์เวห์จอมจักรวาลประทับอยู่กับเรา พระเจ้าแห่งยาโคบทรงเป็นปราการของเรา)” [สดด. ๔๖: ๑-๓]
โอ พระเยซูเจ้า ผู้อ่อนหวาน “พระองค์ทรงเป็นปราการมั่นคงสำหรับผู้ถูกกดขี่ ทรงเป็นที่มั่นในยามทุกข์ร้อน ผู้ที่รู้จักพระนาม ย่อมวางใจในพระองค์ พระองค์ไม่ทรงทอดทิ้งผู้แสวงหาพระองค์เลย”[เทียบ สดด. ๙: ๙-๑๐]
อาแมน
คุณพ่อเอนก นามวงษ์