พระเยซูเจ้าตรัสกับเปโตรทีสวนเกทเสมนีว่า “ท่านตื่นเฝ้าอยู่กับเราสักหนึ่งชั่วโมงไม่ได้หรือ” (มธ ๒๖:๔๐) แต่สำหรับเราขอแค่ ๑ นาทีกับพระเมตตาของพระเยซูเจ้าไม่ได้หรือ.....
“จงพักอยู่กับพวกเราเถิด พระเจ้าข้า” [ลก. ๒๔:๒๙]
วันนี้ เราได้พักใจในอารามแห่งนี้ (บ้านคราคูฟ) จงบอกชาวโลกเกี่ยวกับความเมตตาและความรักของเรา (๑๐๗๔)
วันที่ ๒๐ มกราคม
หน้าที่ของเรา
16 ธันวาคม (1936) ดิฉันถวายคำภาวนาและความทุกข์ทรมานตลอดวันเพื่อประเทศที่น่าสงสารนั่น หลังรับศีลมหาสนิท พระเยซูเจ้าตรัสกับดิฉันว่า เราไม่สามารถทนประเทศนั้นต่อไปได้อีก อย่ามัดมือเราไว้เลยลูกเอ๋ย ดิฉันได้รับรู้ว่าหากมิใช่เพราะคำภาวนาของวิญญาณที่พระเจ้าพอพระทัยแล้ว ชนชาตินั้นคงถูกทำลายสิ้นแล้ว โอ! ดิฉันต้องรับทนความทุกข์แทนชนชาตินั้นขนาดไหน พวกเขาขับไล่พระเจ้าออกไปนอกพรมแดนของเขา
(บันทึกพระเมตตาในวิญญาณนักบุญโฟสตินา ข้อ ๘๑๘)
มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ดิฉันทูลถามพระเยซูเจ้าว่า พระองค์ยอมให้ความบาปและอาชญากรรมเกิดขึ้นมากมายโดยไม่ลงโทษได้อย่างไร พระองค์ตรัสตอบว่า “เรามีเวลาตลอดชั่วนิรันดรในการลงโทษ (เหล่านี้) เราถึงได้ขยายหนดเวลาแห่งความเมตตาออกไปด้วยเห็นแก่คนบาป แต่วิบากกรรมแก่พวกเขา ถ้าหากพวกเขาไม่รับรู้การมาเยือนของเราคราวนี้ ลูกผู้เป็นเลขานุการของเรา หน้าที่ของลูกไม่ใช่เพียงแต่บันทึกและป่าวประกาศเรื่องความเมตตาของเราเท่านั้น ลูกยังมีหน้าที่วิงวอนขอพระหรรษทานนี้ให้แก่เขาเหล่านั้นอีก เพื่อพวกเขาจะได้สรรเสริญความเมตตาของเราด้วยเช่นกัน”
(บันทึกพระเมตตาในวิญญาณนักบุญโฟสตินา ข้อ ๑๑๖๐)
ภาวนาตอบรับพระเมตตา
โอ พระเยซูเจ้า ผู้อ่อนหวาน ขอโมทนาคุณพระองค์ที่มอบหมายให้นักบุญโฟสตินาเขียนถึงพระเมตตาของพระองค์ ไม่เพียงแต่ให้เขียนเท่านั้น แต่ยังสอนให้วอนขอพระเมตตาเพื่อคนบาปด้วย “แต่พระเจ้าทรงเปี่ยมด้วยพระเมตตา ทรงสำแดงความรักยิ่งใหญ่ต่อเรา” [อฟ. ๒:๔]
อาแมน
คุณพ่อเอนก นามวงษ์