พระเยซูเจ้าตรัสกับเปโตรทีสวนเกทเสมนีว่า “ท่านตื่นเฝ้าอยู่กับเราสักหนึ่งชั่วโมงไม่ได้หรือ” (มธ ๒๖:๔๐) แต่สำหรับเราขอแค่ ๑ นาทีกับพระเมตตาของพระเยซูเจ้าไม่ได้หรือ.....
“จงพักอยู่กับพวกเราเถิด พระเจ้าข้า” [ลก. ๒๔:๒๙]
วันนี้ เราได้พักใจในอารามแห่งนี้ (บ้านคราคูฟ) จงบอกชาวโลกเกี่ยวกับความเมตตาและความรักของเรา (๑๐๗๔)
วันที่ 3 พฤษภาคม
ลูกคือผู้ปลอบโยนเรา
+พอถึงเวลาบ่ายสามโมง ดิฉันหมอบราบเป็นรูปกางเขนภาวนาเพื่อชาวโลก ชีวิตมนุษย์ของพระเยซูเจ้ากำลังสิ้นสุดลงแล้ว ดิฉันได้ยินพระวาจาเจ็ดประโยคสุดท้ายของพระองค์ ครั้นแล้วพระองค์ทรงมองดิฉัน ตรัสว่า “ลูกที่เรารักยิ่ง ลูกคือผู้ปลอบโยนเราระหว่างที่เราระทมทุกข์แสนสาหัส”
(บันทึกพระเมตตาในวิญญาณนักบุญโฟสตินา ข้อ ๑๐๕๘)
ภาวนาตอบรับพระเมตตา
พระเยซูเจ้าข้า “พระองค์ได้สิ้นพระชนม์ สายธารแห่งชีวิตได้หลั่งไหลออกมาเพื่อวิญญาณทั้งหลาย และมหาสมุทรแห่งพระเมตตาได้เผยออกเพื่อมวลมนุษย์” (บันทึกนักบุญโฟสตินา:๑๓๑๙)
โอ้องค์ธารแห่งชีวิต “พระเมตตาอันสุดจะหยั่งได้ของพระองค์ โปรดทรงห่อหุ้มและชโลมชาวโลกทั้งมวลด้วยพระเมตตา และประทานพระเมตตาของพระองค์แก่ลูกทั้งหลายจนหมดพระหฤทัยด้วยเถิด พระเจ้าข้า ” (บันทึกนักบุญโฟสตินา:๑๓๑๙)
พระเยซูเจ้าองค์ความรักนิรันดร พระองค์“ทรงค้ำจุนทุกคนที่กำลังจะล้ม และทรงพยุงทุกคนที่ล้มให้ลุกขึ้นได้” (สดด.๔๕:๑๔)
ข้าแต่พระเยซูผู้ทรงเป็นขุมกำลังและความหวังเดียวของลูก “ดิฉันถูกความกลัวเข้าครอบงำขนาดหนักจนร่างกายอ่อนแรง ดิฉันรีบเดินกลับไปยังห้องพักพระเมตตาวิวรณ์ คุกเข่าลงเบื้องหน้ากางเขนและเริ่มวอนขอพระเมตตา” (บันทึกนักบุญโฟสตินา:๒๔)
อาแมน
คุณพ่อเอนก นามวงษ์