พระเยซูเจ้าตรัสกับเปโตรทีสวนเกทเสมนีว่า “ท่านตื่นเฝ้าอยู่กับเราสักหนึ่งชั่วโมงไม่ได้หรือ” (มธ ๒๖:๔๐) แต่สำหรับเราขอแค่ ๑ นาทีกับพระเมตตาของพระเยซูเจ้าไม่ได้หรือ.....
“จงพักอยู่กับพวกเราเถิด พระเจ้าข้า” [ลก. ๒๔:๒๙]
วันนี้ เราได้พักใจในอารามแห่งนี้ (บ้านคราคูฟ) จงบอกชาวโลกเกี่ยวกับความเมตตาและความรักของเรา (๑๐๗๔)
วันที่ 9 พฤษภาคม
รำพึงถึงพระมหาทรมานเพียงหนึ่งชั่วโมงสร้างบุญกุศลได้มาก
ดิฉันได้รับอนุญาตให้รำพึงถึงพระมหาทรมานของพระเยซูเจ้าและสำหรับความอัปยศอดสูอย่างหนึ่งเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง แต่ดิฉันไม่ค่อยถูกใจเท่าไรนักที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ทำตามที่ขอไปทุกอย่าง พอเรากลับถึงบ้านแล้ว ดิฉันจึงแวะเข้าวัดน้อย แล้วก็ได้ยินเสียงในวิญญาณว่า “การรำพึงถึงพระมหาทรมานของเราเพียงหนึ่งชั่วโมงนั้นสร้างบุญกุศลได้มากกว่าการเฆี่ยนตนเองอย่างทารุณตลอดหนึ่งปีเสียอีก การเพ่งพิศรำพึงถึงบาดแผลที่เจ็บปวดของเราเป็นประโยชน์ต่อลูกมากและทำให้เรายินดีมาก เราแปลกใจที่ลูกยังสละน้ำใจของลูกไม่ได้ทั้งหมด แต่เราดีใจเหลือเกินที่ลูกจะเปลี่ยนแปลงสำเร็จระหว่างการเข้าเงียบครั้งนี้”
(บันทึกพระเมตตาในวิญญาณนักบุญโฟสตินา ข้อ ๓๖๙)
ภาวนาตอบรับพระเมตตา
พระเยซูเจ้าองค์ความรักนิรันดร “ขณะที่เรายังอ่อนแอ พระคริสตเจ้าสิ้นพระชนม์เพื่อคนบาปตามเวลาที่กำหนด ยากที่จะหาคนที่ยอมตายเพื่อคนชอบธรรม บางครั้งอาจจะมีคนยอมตายแทนคนดีจริงๆ ได้ แต่พระเจ้าทรงพิสูจน์ว่าทรงรักเรา เพราะพระคริสตเจ้าสิ้นพระชนม์เพื่อเราขณะที่เรายังเป็นคนบาป” (รม.๕:๖-๘)
พระเยซูเจ้าข้า “ขอให้ข้าพเจ้าได้ขับร้องสรรเสริญพระยาห์เวห์ที่ทรงดีต่อข้าพเจ้าอย่างเหลือล้น” (สดด.๑๓:๖)
ข้าแต่พระเยซูผู้ทรงเป็นขุมกำลังและความหวังเดียวของลูก ดิฉันเห็นองค์พระผู้เป็นเจ้าภายในวิญญาณ พระองค์ตรัสกับดิฉันว่า “อย่ากลัวเลยลูกรัก เราอยู่กับลูก” ชั่วขณะนั้นเอง ความมืดมนและความระทมทุกข์ก็หายไป ประสาทสัมผัสของดิฉันท่วมล้นด้วยความเบิกบานยินดีที่ไม่อาจพรรณนาได้ [และ]พลังสมรรถภาพของวิญญาณก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความสว่าง” (บันทึกนักบุญโฟสตินา:๑๕๖๐)
อาแมน
คุณพ่อเอนก นามวงษ์