พระเยซูเจ้าตรัสกับเปโตรทีสวนเกทเสมนีว่า “ท่านตื่นเฝ้าอยู่กับเราสักหนึ่งชั่วโมงไม่ได้หรือ” (มธ ๒๖:๔๐) แต่สำหรับเราขอแค่ ๑ นาทีกับพระเมตตาของพระเยซูเจ้าไม่ได้หรือ.....
“จงพักอยู่กับพวกเราเถิด พระเจ้าข้า” [ลก. ๒๔:๒๙]
วันนี้ เราได้พักใจในอารามแห่งนี้ (บ้านคราคูฟ) จงบอกชาวโลกเกี่ยวกับความเมตตาและความรักของเรา (๑๐๗๔)
วันที่ 10 พฤษภาคม
เราเจ็บปวดทรมานยิ่งกว่าที่ลูกเห็น
เมื่อดิฉันมาเฝ้าศีล ดิฉันสำรวมจิตได้ในทันที และดิฉันเห็นพระเยซูเจ้าทรงถูกมัดติดกับเสา ถูกเปลื้องอาภรณ์ แล้วการเฆี่ยนก็เริ่มขึ้นทันที ดิฉันเห็นชายสี่คนผลัดกันเฆี่ยนพระองค์ด้วยแส้ ดิฉันใจแทบขาดเมื่อเห็นภาพทารุณกรรมนี้ พระเยซูเจ้าตรัสกับดิฉันว่า “เราเจ็บปวดทรมานยิ่งกว่าที่ลูกเห็น” พระเยซูเจ้าโปรดให้ดิฉันได้รู้ว่าพระองค์ยอมถูกเฆี่ยนเพราะบาปใดมันคือบาปต่างๆที่ผิดต่อความบริสุทธิ์ พระองค์เจ็บปวดพระทัยยิ่งนักระหว่างการเฆี่ยนนี้
(บันทึกพระเมตตาในวิญญาณนักบุญโฟสตินา ข้อ ๔๔๕)
ภาวนาตอบรับพระเมตตา
พระเยซูเจ้าองค์ความรักนิรันดร ผ่านทางนักบุญโฟสตินาลูกได้รับรู้ถึงความทรมานของพระองค์อย่างแสนสาหัสเพราะบาปของลูก “พระจิตของพระคริสตเจ้าทรงเป็นพยานอยู่ในตัวเขา ทรงเปิดเผยให้รู้ถึงพระทรมานที่พระคริสตเจ้าจะต้องทรงรับ และรู้ถึงพระสิริรุ่งโรจน์ที่จะตามมา” (๑ปต.๑:๑๑)
พระเยซูเจ้าข้า “เพราะพระองค์มิได้ทรงรังเกียจผู้ยากไร้ หรือดูถูกความเดือดร้อนของเขา มิได้ทรงซ่อนพระพักตร์ แต่ทรงฟังเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากเขา” (สดด.๑๓:๖)
ข้าแต่พระเยซูผู้ทรงเป็นขุมกำลังและความหวังเดียวของลูก ดิฉันเห็นองค์พระผู้เป็นเจ้าภายในวิญญาณ พระองค์ตรัสกับดิฉันว่า “อย่ากลัวเลยลูกรัก เราอยู่กับลูก” ชั่วขณะนั้นเอง ความมืดมนและความระทมทุกข์ก็หายไป ประสาทสัมผัสของดิฉันท่วมล้นด้วยความเบิกบานยินดีที่ไม่อาจพรรณนาได้ [และ]พลังสมรรถภาพของวิญญาณก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความสว่าง” (บันทึกนักบุญโฟสตินา:๑๕๖๐)
อาแมน
คุณพ่อเอนก นามวงษ์