พระเยซูเจ้าตรัสกับเปโตรทีสวนเกทเสมนีว่า “ท่านตื่นเฝ้าอยู่กับเราสักหนึ่งชั่วโมงไม่ได้หรือ” (มธ ๒๖:๔๐) แต่สำหรับเราขอแค่ ๑ นาทีกับพระเมตตาของพระเยซูเจ้าไม่ได้หรือ.....
“จงพักอยู่กับพวกเราเถิด พระเจ้าข้า” [ลก. ๒๔:๒๙]
วันนี้ เราได้พักใจในอารามแห่งนี้ (บ้านคราคูฟ) จงบอกชาวโลกเกี่ยวกับความเมตตาและความรักของเรา (๑๐๗๔)
วันที่ 19 พฤษภาคม
จงดูและเข้ามาในมหาทรมานของเรา
ระหว่างการเฝ้าศีลมหาสนิท พระเยซูเจ้าตรัสแก่ดิฉันว่า “ลูกเอ๋ย จงรู้ไว้เถิดว่า ความรักอันท้วมท้นของลูกและความกรุณาสงสารที่ลูกมีต่อเรานั้นเป็นเหมือนเครื่องปลอบใจเราในสวน (มะกอกเทศ)” ในชั่วพริบตา ดิฉันได้สัมผัสพระมหาทรมานของพระเยซูเจ้าทั้งหมดภายในหัวใจของดิฉันเอง ดิฉันแปลกใจที่ทารุณกรรมเหล่านี้ไม่ได้ปลิดชีวิตดิฉันไปเสียก่อน
(บันทึกพระเมตตาในวิญญาณนักบุญโฟสตินา ข้อ ๑๖๖๔)
“ลูกเอ๋ย วันนี้จงพิจารณาความยิ่งใหญ่ทั้งสิ้นของมหาทรมานอันน่าเศร้าสลดของเรา ให้ลูกพิจารณาเสมือนว่าเป็นมหาทรมานที่แบกรับเพื่อลูกคนเดียว”
(บันทึกพระเมตตาในวิญญาณนักบุญโฟสตินา ข้อ ๑๗๖๑)
ภาวนาตอบรับพระเมตตา
พระเยซูเจ้าข้า ขอขอบคุณความยิ่งใหญ่ทั้งสิ้นของมหาทรมานอันน่าเศร้าสลดของพระองค์ที่มีต่อลูก “เพราะอาศัยธรรมบัญญัตินั่นแหละข้าพเจ้าจึงได้ตายไปจากธรรมบัญญัติแล้ว เพื่อจะได้มีชีวิตอยู่สำหรับพระเจ้าข้าพเจ้าถูกตรึงกางเขนกับพระคริสตเจ้าแล้ว ข้าพเจ้ามีชีวิตอยู่ มิใช่ตัวข้าพเจ้าอีกต่อไป แต่พระคริสตเจ้าทรงดำรงชีวิตอยู่ในตัวข้าพเจ้าชีวิตที่ข้าพเจ้ากำลังดำเนินอยู่ในร่างกายขณะนี้ ข้าพเจ้าดำเนินชีวิตในความเชื่อถึงพระบุตรของพระเจ้าผู้ทรงรักข้าพเจ้าและทรงมอบพระองค์เพื่อข้าพเจ้า” (กท.๒:๑๙-๒๐)
ข้าแต่พระเยซูเจ้าของลูก ความยินดี ความเข้มแข็งและพลังที่จะปฏิบัติหน้าที่ยังคงอยู่ในวิญญาณดิฉัน แต่ดิฉันก็ยังแปลกใจที่องค์พระผู้เป็นเจ้ามิได้ปรารถนาจะปลดปล่อยดิฉัน ทั้งมิได้เปลี่ยนแปลงสิ่งที่พระองค์เคยตรัสไว้ และถึงแม้ได้รับความยินดีเหล่านี้ แต่เงาแห่งความเศร้าก็ยังคงอยู่เสมอ ดิฉันพบว่าความรักกับความเศร้านั้นเป็นของคู่กัน (บันทึกนักบุญโฟสตินา:๘๘๑)
พระเมตตาของพระเจ้า ที่พำนักของดวงใจทั้งหลาย สันติสุขท่ามกลางความหวั่นกลัว ลูกวางใจในพระองค์
อาแมน
คุณพ่อเอนก นามวงษ์