พระเยซูเจ้าตรัสกับเปโตรทีสวนเกทเสมนีว่า “ท่านตื่นเฝ้าอยู่กับเราสักหนึ่งชั่วโมงไม่ได้หรือ” (มธ ๒๖:๔๐) แต่สำหรับเราขอแค่ ๑ นาทีกับพระเมตตาของพระเยซูเจ้าไม่ได้หรือ.....
“จงพักอยู่กับพวกเราเถิด พระเจ้าข้า” [ลก. ๒๔:๒๙]
วันนี้ เราได้พักใจในอารามแห่งนี้ (บ้านคราคูฟ) จงบอกชาวโลกเกี่ยวกับความเมตตาและความรักของเรา (๑๐๗๔)
วันที่ 13 กันยายน
พระเยซูเจ้าได้ทรงสำแดงพระเมตตาแก่ลูกครั้งแล้วครั้งเล่า
ขณะที่ดิฉันรำพึงเรื่องบาปของทูตสวรรค์และการถูกลงโทษทันทีนั้น ดิฉันทูลถามพระเยซูเจ้าว่าทำไมพวกทูตสวรรค์จึงถูกลงโทษทันทีที่ ทำบาป ดิฉันได้ยินเสียงหนึ่ง “เพราะพวกเขามีความรู้ลึกซึ้งเรื่องพระเจ้าไม่มีใครในโลก แม้แต่นักบุญที่ยิ่งใหญ่ มีภูมิรู้เรื่องพระเจ้าเท่าทูตสวรรค์”
ข้าแต่พระเจ้า แต่ทว่าพระองค์ได้ทรงสำแดงพระเมตตาแก่ลูกผู้สุดแสนน่าเวทนา ทั้งทรงกระทำเช่นนี้ครั้งแล้วครั้งเล่า พระองค์ทรงอุ้มลูกไว้แนบอกด้วยความเมตตาและยกโทษให้ลูกทุกครั้งที่ลูกวอนขอด้วยจิตใจที่สำนึกผิด”
(บันทึกพระเมตตาในวิญญาณนักบุญโฟสตินา ข้อ ๑๓๓๒)
ภาวนาตอบรับพระเมตตา
พระเยซูเจ้าข้า “พระองค์ทรงทราบดีว่าทุกสิ่งทุกอย่างในตอนนี้ขึ้นอยู่กับพระองค์ ลูกมีสันติสุขภายในใจแม้มีเรื่องเร่งเร้ามากมายก็ตาม” (บันทึกวิญญาณนักบุญโฟสตินา ข้อ ๗๕๑)
ข้าแต่พระผู้ทรงฤทธิ์ ลูกจะพูดถึงพระเมตตาของพระองค์ได้ทรงสำแดงพระเมตตาแก่ลูกผู้สุดแสนน่าเวทนา แก่เพื่อนพี่น้อง “ผู้มนุษย์เอ๋ย พระองค์ทรงบอกท่านไว้แล้วว่าอะไรดี และพระยาห์เวห์ทรงประสงค์สิ่งใดจากท่าน คือให้ท่านปฏิบัติความยุติธรรมและรักความดีงาม และดำเนินชีวิตอย่างถ่อมตนกับพระเจ้าของท่าน” (มีคาห์๖:๘)
โอ้ พระโลหิตและน้ำ ซึ่งหลั่งไหลมาจากพระหฤทัยของพระเยซูเจ้าเป็นท่อธารพระเมตตาเพื่อลูกทั้งหลายลูกวางใจในพระองค์!
อาแมน
คุณพ่อเอนก นามวงษ์
