พระเยซูเจ้าตรัสกับเปโตรทีสวนเกทเสมนีว่า “ท่านตื่นเฝ้าอยู่กับเราสักหนึ่งชั่วโมงไม่ได้หรือ” (มธ ๒๖:๔๐) แต่สำหรับเราขอแค่ ๑ นาทีกับพระเมตตาของพระเยซูเจ้าไม่ได้หรือ.....
“จงพักอยู่กับพวกเราเถิด พระเจ้าข้า” [ลก. ๒๔:๒๙]
วันนี้ เราได้พักใจในอารามแห่งนี้ (บ้านคราคูฟ) จงบอกชาวโลกเกี่ยวกับความเมตตาและความรักของเรา (๑๐๗๔)
วันที่ 18 พฤศจิกายน
พระเยซูเจ้าสอนเรื่องความรู้สึก
ระหว่างมิสซา ดิฉันเห็นพระเยซูเจ้าถูกตรึงบนกางเขน พระองค์ตรัสแก่ดิฉันว่า “ศิษย์ของเรา จงรักคนที่ทำให้ลูกเจ็บปวดให้มาก จงทำดีต่อคนที่เกลียดชังลูก”
ดิฉันทูลตอบว่า “ข้าแต่พระอาจารย์เจ้า พระองค์ทรงทราบดีว่าลูกรักพวกเขาไม่ลงและนั่นทำให้ลูกไม่สบายใจ”
พระเยซูเจ้าทรงตอบว่า “ลูกย่อมไม่สามารถควบคุมความรู้สึกของลูกได้ตลอดเวลา ลูกจะรู้ได้ว่าลูกรักพวกเขาก็ต่อเมื่อลูกประสบกับการขัดเคืองใจและความขัดแย้งแล้ว ลูกไม่ได้สูญเสียสันติสุขไป แต่กลับอธิษฐานภาวนาให้แก่คนที่ทำให้ลูกเป็นทุกข์และมีความปรารถนาดีต่อพวกเขา”
(บันทึกพระเมตตาในวิญญาณนักบุญโฟสตินา ข้อ ๑๖๒๘)
ภาวนาตอบรับพระเมตตา
ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงอ่อนโยนยิ่งนัก “พระองค์ทรงเมตตาเหลือล้นที่ทรงพิพากษาทุกคนตามแต่มโนธรรมและความสามารถในการเข้าใจของเขา มิใช่ตามเสียงโจษจันของผู้คน”(บันทึกนักบุญโฟสตินา:๑๓๗๒)
พระเยซูสุดที่รักของลูก ลูกจะรักคนที่ทำให้ลูกเจ็บปวดให้มาก จะทำดีต่อคนที่เกลียดชังลูก เพราะว่า “ในฐานะที่พระองค์ทรงรับการทรมานและทรงผ่านการทดลองมาแล้ว พระองค์จึงทรงช่วยเหลือผู้ที่ถูกทดลองได้ด้วย” (ฮบ. ๒: ๑๘)
โอ้ พระโลหิตและน้ำ ซึ่งหลั่งไหลมาจากพระหฤทัยของพระเยซูเจ้าเป็นท่อธารพระเมตตาเพื่อลูกทั้งหลายลูกวางใจในพระองค์!
อาแมน
คุณพ่อเอนก นามวงษ์