พระเยซูเจ้าตรัสกับเปโตรทีสวนเกทเสมนีว่า “ท่านตื่นเฝ้าอยู่กับเราสักหนึ่งชั่วโมงไม่ได้หรือ” (มธ ๒๖:๔๐) แต่สำหรับเราขอแค่ ๑ นาทีกับพระเมตตาของพระเยซูเจ้าไม่ได้หรือ.....
“จงพักอยู่กับพวกเราเถิด พระเจ้าข้า” [ลก. ๒๔:๒๙]
วันนี้ เราได้พักใจในอารามแห่งนี้ (บ้านคราคูฟ) จงบอกชาวโลกเกี่ยวกับความเมตตาและความรักของเรา (๑๐๗๔)
วันที่ 26 พฤศจิกายน
จงรู้เถิดว่า......
ในเวลานั้น ดิฉันเห็นพระเยซูเจ้า มีรังสีสองสายส่องออกมาจากพระหฤทัยโอบรอบร่างดิฉันไว้ทั้งหมด แล้วความทรมานก็หายเป็นปลิดทิ้งพระองค์ตรัสว่า “ลูกรัก จงรู้เถิดว่าลำพังตัวลูกเองนั้น ลูกย่อมมีสภาพไม่ต่างกับที่เพิ่งพบมา ลูกมีส่วนร่วมในชีวิตนิรันดรและพระพรที่เราทุ่มเทให้ด้วยพระหรรษทานของเราเท่านั้น”
พระดำรัสของพระเยซูเจ้านี้ทำให้ดิฉันรู้จักธาตุแท้ของตัวเอง พระเยซูเจ้าทรงสอนบทเรียนเรื่องความสุภาพแท้และความวางใจในพระองค์เต็มเปี่ยมในเวลาเดียวกัน หัวใจของดิฉันกลายเป็นฝุ่นดินและขี้เถ้าจนว่าหากทุกคนเหยียบย่ำดิฉันไว้ใต้เท้า ดิฉันก็ยังถือว่าเป็นความกรุณาแล้ว อันที่จริงแล้ว ดิฉันรู้ซึ้งจากตัวรู้นี้เองว่า ดิฉันเป็นเพียงความเปล่า เพื่อว่าการคลายพยศจะได้เป็นความชุ่มชื่นของดิฉัน
(บันทึกพระเมตตาในวิญญาณนักบุญโฟสตินา ข้อ ๑๕๕๙)
ภาวนาตอบรับพระเมตตา
ข้าแต่พระเยซูคริสตเจ้า “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า แม้ว่าพระองค์แพร่งพรายเสียงกึกก้องแห่งพระพิโรธของพระองค์แก่ลูกอยู่เนืองๆ แต่พระพิโรธก็หายไปสิ้นต่อหน้าต่อตาวิญญาณที่เจียมตน” (บันทึกวิญญาณนักบุญโฟสตินา: ๑๔๓๖)
พระบิดานิรันดร องค์ความเมตตามิรู้จบสิ้นและพระคลังความเมตตาอันล้นเหลือ “ทั้งๆที่พระองค์ทรงยิ่งใหญ่ พระองค์กลับยอมพ่ายต่อวิญญาณที่เจียมตนและสุภาพถ่องแท้ ความสุภาพเอ๋ย เจ้าเป็นฤทธิ์กุศลที่ล้ำค่าที่สุดในบรรดาฤทธิ์กุศลทั้งหลาย วิญญาณที่ยึดมั่นในความสุภาพนั้นช่างมีน้อยเสียเหลือเกิน” (บันทึกวิญญาณนักบุญโฟสตินา: ๑๔๓๖)
โอ้ พระโลหิตและน้ำ ซึ่งหลั่งไหลมาจากพระหฤทัยของพระเยซูเจ้าเป็นท่อธารพระเมตตาเพื่อลูกทั้งหลายลูกวางใจในพระองค์!
อาแมน
คุณพ่อเอนก นามวงษ์