พระเยซูเจ้าตรัสกับเปโตรทีสวนเกทเสมนีว่า “ท่านตื่นเฝ้าอยู่กับเราสักหนึ่งชั่วโมงไม่ได้หรือ” (มธ ๒๖:๔๐) แต่สำหรับเราขอแค่ ๑ นาทีกับพระเมตตาของพระเยซูเจ้าไม่ได้หรือ.....
“จงพักอยู่กับพวกเราเถิด พระเจ้าข้า” [ลก. ๒๔:๒๙]
วันนี้ เราได้พักใจในอารามแห่งนี้ (บ้านคราคูฟ) จงบอกชาวโลกเกี่ยวกับความเมตตาและความรักของเรา (๑๐๗๔)
วันที่ 25 มีนาคม
การทำกิจเมตตาคือหลักเกณฑ์ตัดสินวาระสุดท้าย
เนื่องจากกิจเมตตานั้นสามารถกระทำได้สามวิธี คือ วิธีแรก ด้วยคำพูดที่เมตตา โดยการให้อภัยและปลอบโยน วิธีที่สองคืออธิษฐานภาวนาในกรณีที่ไม่สามารถแสดงความเมตตาด้วยคำพูด และวิธีที่สามคือการทำกิจเมตตา เราจะได้รับการพิจารณาจากกิจการที่เราทำเหล่านี้เมื่อถึงวาระสุดท้าย และเราจะได้รับคำพิพากษานิรันดรตามหลักเกณฑ์นี้
(บันทึกพระเมตตาในวิญญาณนักบุญโฟสตินาข้อ ๑๑๕๘)
พระเจ้าเปิดโอกาสให้เราแล้ว ขอให้เราฉวยโอกาสรับประโยชน์จากการนี้ก่อนถึงวันแห่งความยุติธรรมของพระเจ้าเถิด เพราะเมื่อนั้นจะเป็นวันที่น่าสะพรึงกลัวยิ่ง!
(บันทึกพระเมตตาในวิญญาณนักบุญโฟสตินาข้อ ๑๑๕๙)
ภาวนาตอบรับพระเมตตา
ข้าแต่พระเยซูเจ้าของลูก เมื่อวิญญาณลูกโหยหาพระองค์ในวงเวลาแห่งการทดลอง ขอโปรดอย่าทอดทิ้งลูกไว้คนเดียวในความมืด แต่โปรดกอดลูกไว้แนบชิดพระองค์ โปรดจัดยามเฝ้าริมฝีปากของลูกไว้ (บันทึกนักบุญโฟสตินา ข้อ ๘๓๑)
ข้าแต่พระเยซูเจ้า โปรดประทานชีวิตพระเจ้าของพระองค์แก่ลูกต่อไปเถิด (บันทึกนักบุญโฟสตินา ข้อ ๘๓๐)
โอ้ พระโลหิตและน้ำ ซึ่งหลั่งไหลมาจากพระหฤทัยของพระเยซูเจ้าเป็นท่อธารพระเมตตาเพื่อลูกทั้งหลายลูกวางใจในพระองค์!
อาแมน
คุณพ่อเอนก นามวงษ์